กลยุทธ์การลงทุน : บล.กรุงศรี Thailand 3Q23 GDP - มีมากกว่าที่ตาเห็น
โดยเผินๆ ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงอย่างมากใน 3Q23 โดย GDP ขยายตัวเพียง 1.5% yoy ซึ่งอ่อนกว่าการคาดการณ์ของตลาด 2.4% และ 1.8% ใน 2Q23 อย่างเห็นได้ชัด
เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาสที่ปรับตามฤดูกาล เศรษฐกิจขยายตัว 0.8% qoq ซึ่งน้อยกว่าคาดที่ 1.2% เล็กน้อย ข้อมูลด้านอุปทานเผยภาคการผลิต (+1.5% yoy) ขยายตัวได้ดีกว่าภาคเกษตร (+0.9%) ธุรกิจต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นปานกลางเนื่องจากการส่งออกสินค้าหดตัวเพียง 3.1% yoy เทียบกับ -6.1% ใน 1H23 การส่งออกบริการมีความยืดหยุ่น โดยเติบโต 23.1% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายได้จากการบริการลดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 1H23 โดยเติบโต 65.8% ประเด็นสำคัญคือบัญชีเดินสะพัดของไทยกลับเกินดุล 2.7% ของ GDP ในขณะเดียวกันการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็แข็งแกร่งมาก โดยเพิ่มขึ้น 8.1% ใน 3Q23 เทียบกับ 6.8% ในครึ่งแรกของปี 2023 การใช้จ่ายในประเทศที่แข็งแกร่งได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ตลาดงานที่มีความยืดหยุ่น และการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง อีกหนึ่งส่วนที่มีการขยายตัวดีขึ้น คือการลงทุนในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.5% yoy เทียบกับเพียง 0.4% ในไตรมาสก่อนหน้า จุดอ่อนที่สุดใน 3Q คือการใช้จ่ายภาครัฐที่การลงทุนลดลง 2.6% yoy ในขณะที่การใช้จ่ายทั่วไปหดตัว 4.9%
Analysis
เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว เศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งใน 3Q23 มาก โดยได้รับแรงหนุนจากภาคเอกชนเป็นหลัก มีปัจจัยหลักสองประการที่กดดันการเติบโตในไตรมาสนี้: (i) กิจกรรมที่ซบเซาของรัฐบาล และ (ii) สินค้าคงคลังในประเทศลดลงอย่างมาก 1.86 แสนล้านบาท เทียบกับการหดตัวเพียง 6 พันล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี อย่างไรก็ตามปัจจัยหลังอาจเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจด้านอุปทานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผ่านการเติมอุปสงค์ สิ่งที่น่าสนใจคือการบริโภคภาคเอกชนมีความแข็งแกร่ง ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของธนาคารกลางที่ว่าผู้บริโภคยังคงมีความยืดหยุ่น และอาจไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางการคลังขนาดใหญ่ในตอนนี้ จากรายงานล่าสุด จะมีประโยชน์มากกว่าหากมุ่งเน้นไปที่โครงการลงทุนระยะกลาง และ ระยะยาวซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของประเทศ นี่จะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันการเติบโตของประเทศไทยให้เติบโต 3.5-4.0% yoy อย่างยั่งยืน