วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี Food Sector - ราคาทูน่าขาลง
เราสังเกตว่าในเดือนธันวาคม 2023 ราคาปลาทูน่ายังคงมีแนวโน้มลดลง โดยแตะ 1,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ลดลงจาก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันในเดือนพฤศจิกายน 2023 ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อ TU (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท)
เนื่องจากต้นทุนปลาทูน่า คิดเป็นประมาณ 43% ของ COGS ทั้งหมด เราประเมินว่าราคาปลาทูน่าที่ลดลงทุกๆ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตันน่าจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น 0.7% และกำไรหลักเพิ่มขึ้น 6% เรายังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกำไรอย่างต่อเนื่องของ TU โดยกำไรหลักเพิ่มขึ้น 11% ในปี 2567 (เป็น 5.3 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ 5% (หนุนโดยอาหารกระป๋องและอาหารสัตว์เลี้ยง) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น 0.7%
Analysis
CPF ได้ประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น
จากข้อมูลของ CPF (UNRATED) ราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้น 1 บาท/กก mom เป็น 69 บาท/กก. ในเดือนธันวาคม และราคาไก่เพิ่มขึ้น 0.50 บาท/กก. Mom เป็น 39 บาท/กก. ส่วนกุ้งเป็นแม่คงที่ที่ 120 บาท/กก. แนวโน้มราคาหมูและไก่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อ CPF (UNRATED) ซึ่งรายได้จากเนื้อหมูคิดเป็น 40% ของรายได้รวมและไก่อีก 40% อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า CPF อาจขาดทุนต่อไปใน 4Q23F-1Q24F (3Q23 ขาดทุน 1.2 พันล้านบาท) เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ในปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาคุ้มทุน ยกเว้นไก่ โดยในปัจจุบันราคาหมูอยู่ที่ 69 บาทต่อก.ก. (ต่ำกว่าราคาคุ้มทุน 75 บาท) ราคากุ้ง 120 บาท (ต่ำกว่าราคาคุ้มทุน 125 บาท) และราคาไก่ 39 บาทต่อก.ก. ซึ่งเป็นตัวเดียวที่สูงกว่าราคาคุ้มทุนที่ 38 บาทต่อก.ก.
Action/ Recommendation
TU (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 17.50) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มอาหาร
เราชอบ TU เพราะคาดว่าจะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นซึ่งน่าจะเป็นตัวเร่งราคาหุ้นให้เป็นบวกเป็นเคาน์เตอร์ที่น่าดึงดูดที่สุดในกลุ่มอาหาร โดยมีการซื้อขายที่ต่ำกว่า BV ที่ 16.90 บาท และ P/E ปี 2567 ที่ 13 เท่า ซึ่งถือว่าถูกที่สุดในบรรดาคู่แข่งด้านอาหารไทย