วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SCCC ผลประกอบการ 4Q66: ดีกว่าประมาณการทุกสำนัก
กำไรสุทธิของ SCCC ใน 4Q66 อยู่ที่ 827 ล้านบาท (+88% QoQ, พลิกฟื้น YoY) ดีกว่าประมาณการของเราเพราะค่าใช้จ่าย SG&A ต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (ต้นทุนที่เกิดจากการปรับโครงสร้าง และการด้อยค่า, ผลขาดทุน FX)
กำไรหลักจะอยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท (+23% QoQ, พลิกฟื้น YoY) ทั้งนี้ กำไรสุทธิ และกำไรหลักในปี 2566 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท (+45% YoY) และ 2.9 พันล้านบาท (-22% YoY) ตามลำดับ เพราะผลประกอบการยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น
Highlights – ราคาพลังงานที่ลดลง และ การปรับโครงสร้างต้นทุนส่งผลดี
ผลประกอบการที่ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เป็นเพราะโครงการลดต้นทุน และอานิสงส์จากการประหยัดต้นทุน ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าอุปสงค์ที่อ่อนแอ และความท้าทายในการขึ้นราคาขายท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่เข้มข้น ทั้งนี้ EBITDA margin ของ SCCC เพิ่มขึ้นเป็น 23.1% (จาก 16.3% ใน 3Q66 และ 7.6%ใน 4Q65) ถึงแม้ว่ารายได้รวมจะลดลง (-6% QoQ, -23% YoY) โดยต้นทุนค่าขนส่ง และถ่านหินลดลงทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในไทยลดลงอีก 16% YoY และ 11% QoQ เหลือ 3.99 บาท/kWh ส่วนอุปสงค์ในประเทศของปูนซีเมนต์ และอื่น ๆ (75% ของ EBITDA) ยังชะลอตัวจากความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณรัฐบาลปี 2567 ในขณะเดียวกันการดำเนินงานในต่างประเทศก็ยังไม่สดใส ยกเว้นในเวียดนาม และศรีลังกาที่แม้จะดีขึ้น แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติ
มุ่งเพิ่มความสมารถในการทำกำไรในระยะยาว
ตั้งแต่ 2H66 เป็นต้นมา SCCC พยายามทำองค์กรให้ lean เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในระยะราว และพัฒนาด้าน ESG ด้วยการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน, ลด clinker factor, และเพิ่มการใช้ชีวมวล เราคาดว่ากำไรในปี 2567-2568F จะโต 10% YoY และ 8% YoY จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น และอานิสงส์จากทางด้านต้นทุน เราเชื่อว่าปี 2567F จะเป็นบทพิสูจน์ถึงความเร็ว และ ความแข็งแกร่งในการฟื้นตัวของอุปสงค์ ในขณะที่อานิสงส์จากด้านต้นทุนในปี 2566 น่าจะลดลงเพราะเงินเฟ้อมี downside จำกัด
เบิกจ่ายงบรัฐบาลได้ช้าในปี 2567
กรอบเวลาในการเบิกจ่ายงบประมาณอาจจะสั้นลง (6 เดือน) และโครงการภาครัฐอาจจะเร่งตัวขึ้นใน 3Q67F ก่อนจะกลับมาเงียบอีกครั้งระหว่างรอการพิจารณางบประมาณปี 2568 ถึงแม้เราจะมองบวกกับแนวโน้มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านจุดสูงสุดจะช่วยหนุนอุปสงค์ แต่ผู้บริโภคและนักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าอุปสงค์ของโครงการภาครัฐจะเป็นอย่างไร เราคาดว่ากำไรหลักของ SCCC ใน 1Q67F อาจจะทรงตัว QoQ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2567F ตามการเบิกจ่ายงบประมาณภาค (น่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2567)
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 149.00 บาท อิงจาก PE ที่ 15x PE (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง) ทั้งนี้ SCCC จะจ่ายเงินปันผล 5.00 บาท/หุ้น (XD: 22 กุมภาพันธ์) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 5% เรามองว่าการเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงเป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้ SCCC น่าลงทุน นอกเหนือไปจากราคาหุ้นที่ถูก แต่รอบนี้เงินปันผลที่จ่ายถือว่าน่าผิดหวังเพราะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 9 บาท/หุ้นที่จ่ายในรอบสามปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จากอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า ทำให้เรามองว่าการที่ SCCC จะเติบโตให้ได้ในระดับปกติเหมือนในอดีตเป็นเรื่องที่ท้าทาย
Risk
ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ และพลังงาน, การขยายตัวของเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของประเทศ