วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.พ. ของ US, EU, Japan
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1,400 จุด/1,404 (EMA 75 วัน) แนวรับ 1,387 จุด (EMA 10 วัน)/1,380 จุด อิงสัญญาณทางเทคนิค พบว่า ภาพระยะสัปดาห์ ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในกรอบ 1,375-1,403 จุด เพื่อรอสัญญาณ Break Out
โดยความเสี่ยงขาลงอยู่ที่ 1,357 จุด และเป้าหมายขาขึ้นอยู่ที่ 1,416/1,428 จุด หากมีการทะลุแนวรับหรือแนวต้านของกรอบขึ้นไปได้ ขณะที่สัญญาณ RSI/Stochastic ที่ยังไม่เข้าเขต Overbought Area ยังคงเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อการสนับสนุนทิศทางขาขึ้นของดัชนีฯ ระยะสั้น
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
Fed Comments: จับตาสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด จากสุนทรพจน์ของ Fed Governor Lisa Cook (voter) และ Minneapolis Fed President Neel Kashkari คาดส่งสัญญาณไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อมีสัญญาณลดลงมาสู่กรอบเป้าหมายของเฟด
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ / รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง
Global Earnings Results: จับตารายงานผลประกอบการบจ. ที่น่าสนใจ ได้แก่ Warner Bros Discovery (คาด 4Q23E EPS -USD0.09 Vs Previous -USD0.86) Standard Chartered (คาด 4Q23E EPS GBP0.27 Vs Previous GBP0.04) Deutsche Telekom (คาด 4Q23E EPS DEM0.40 Vs Previous DEM0.40) ฯลฯ ส่วนผลประกอบการบจ.ไทย ที่น่าสนใจ ได้แก่ RBF (คาด 4Q23E รายงานกำไร +76.6% YoY, -20.7% QoQ เป็น 166 ล้านบาท) RCL (คาด 4Q23E รายงานกำไร -77.8% YoY, -0.8% QoQ เป็น 580ล้านบาท) WHA (คาด 4Q23E รายงานกำไร -19% YoY, +269% QoQ เป็น 2,301 ล้านบาท) SISB (คาด 4Q23E รายงานกำไร +56.6% YoY, +56.4% QoQ เป็น 201 ล้านบาท) ทั้งนี้ รายงานผลกำไรที่ดีหรือแย่กว่าคาด จะส่งผลเชิงบวกหรือลบต่อหุ้นรายตัว และมีผลทางอ้อมต่อ Sentiment หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
รายงานภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.พ. ของ US (S&P Global), EU (HBOC) โดย Consensus คาดสหรัฐฯ อยู่ที่ 50.5 (Vs เดือน ม.ค. 50.7) 52 (Vs เดือน ม.ค. 52.5) ส่วน EU อยู่ที่ 47 (Vs เดือน ม.ค. 46.6) 48.8 (Vs เดือน ม.ค. 48.4)
EU รายงานเงินเฟ้อเดือน ม.ค. (Final) Consensus คาด -0.4% MoM, +2.8% YoY (Vs เดือน ธ.ค. 0.2% MoM, +2.9% YoY) เพิ่มโอกาสต่ออีซีบีในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะ Technical Recession (3Q-4Q23 เติบโต -0.1% QoQ ทั้งสองไตรมาส)
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ BEM CK JPARK
Strategic daily picks
BEM ปิด 7.80 บาท/แนวรับ 7.50 บาท แนวต้าน 8.20 บาท
ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเฉลี่ยทั้งเดือน ม.ค. 2024 อยู่ที่ 4.2 แสนเที่ยวคน/วัน (+20% YoY) และคาดการณ์เฉลี่ยทั้งปี 2024 อยู่ที่ 4.4 แสนเที่ยวคน/วัน (+13% YoY) ส่วนปริมาณการจราจรในระบบทางด่วนเฉลี่ยทั้งปี 2024 คาดทรงตัวที่ราว 1.1-1.2 ล้านคัน/วัน โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 3.44 พันล้านบาท (+41.13% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 10.54 บาท
CK ปิด 23.50 บาท/แนวรับ 22.80 บาท แนวต้าน 24.00 บาท
สิ้นปี 2023 มี Backlog ราว 1.3 แสนล้านบาท และสร้างรายได้เฉลี่ยไตรมาสละ 9 พันล้านบาท ต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้บริษัทมีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งปี 2024 รวมทั้งยังมีโอกาสได้งานจาก BEM ราว 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.54 พันล้านบาท (+39.73% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 26.39 บาท
JPARK ปิด 7.50 บาท/แนวรับ 7.20 บาท แนวต้าน 8.05 บาท
ปี 2024 ตั้งเป้าจะมีช่องจอดรถยนต์เพิ่มอีก 1 หมื่นช่องจอด เป็น 4 หมื่นช่องจอด (ปัจจุบันขยายไปแล้วกว่า 2.5 พันช่องจอด และจะเร่งขยายให้ได้ 3 พันช่องจอด ใน 1Q24) จากปัจจุบัน 3 หมื่นช่องจอด ทำให้หนุนการเติบโตของรายได้ในปี 2024 ได้ราว 25-30% ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 70 ล้านบาท (+27.11% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 7.20 บาท