วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา การพิจารณางบประมาณปี 2024 ของ สว.

ส่วนทิศทางระยะสั้น การทำ Lower Low ใหม่ วานนี้ที่ 1,368.21 จุด ซึ่งต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม 1,372.28 จุด เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เพิ่มความเสี่ยงของการเคลื่อนตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบใหญ่ ซึ่งอาจจะเกิดเป็น Sell Signal รอบใหม่ หากดัชนีฯ ต่ำกว่า 1,350 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

Opportunity Day: PQS SYNTEC MVP RT TRC TBN PORT WAVE MFEC DUSIT SC DEXON ACE YGG DEMCO KAMART

วุฒิสภาพิจารณางบประมาณปี 2024 วาระ2-3: หากมีมติเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป คาดว่าอยู่ในช่วงต้นเดือน เม.ย. (+หุ้นกลุ่มอิงการบริโภคและการลงทุนของภาครัฐ)

FMS เดือน มี.ค.: ผลสำรวจผู้จัดการกองทุนโลก 226 ราย มูลค่า NAV USD572bn. ระหว่างวันที่ 8-14 มี.ค. 2024 ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุน Equities โดยเพิ่มน้ำหนักลงทุนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เป็น 28% OW (Vs เดือน ก.พ. 21 % OW และเดือน ม.ค. 9% OW) แต่มีการกระจายลงทุนไปยังตลาดหุ้น EU GEM Japan เพิ่มมากขึ้น (ลดน้ำหนักลงทุน US Equities ลงเป็น 8% OW จากเดือน ก.พ. 21% OW) ภายใต้มุมมองเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าคาดการณ์ แต่เงินเฟ้ออาจไม่ปรับลดลงเร็ว และเป็นความเสี่ยงอันดับแรก ที่ผจก.กองทุนโลกอาจมีการปรับพอร์ตครั้งใหม่ หลังผลประชุมธนาคารกลางโลกประกาศ

ทั้งนี้ การเพิ่มน้ำหนักลงทุน GEM สูงขึ้น(16% OW จากเดือน ก.พ. 8% UW) ถือว่าเป็นโมเมนตัมบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะแรงซื้อคืนตลาดหุ้นจีน (Most Crowed Trade ลดการ Short ตลาดหุ้นจีน ลงเหลือ 14% จากเดิม 25%) รวมถึงเป็น Positive Sentiment ต่อตลาดหุ้นไทย

 

ส่วนอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อิงจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนจากระยะต่ำสุด (Through) มาเป็น ระยะฟื้นตัว (Recovery) จะเป็น โมเมนตัมบวกต่อหุ้นกลุ่ม Laggard Plays (พลังงานและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มธนาคารและการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง) จากปัจจุบันที่เลือกลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร กลุ่มสินค้าด้อยคุณภาพ (สินค้า House Brand บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป)

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:

US รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสาคัญ: ได้แก่ 1. ยอดขายสินค้าคงทนเดือน ก.พ. (Figure1) Consensus คาดดีขึ้นเป็น 1% MoM (Vs เดือน ม.ค.-6.1% MoM) 2.ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่ (S&P Case Shiller Home Price Index) เดือน ม.ค. Consensus คาด -0.1% MoM +6.8% YoY (Vs เดือน ธ.ค.-0.3% MoM, +6.1% YoY) 3. Conference Board Consumer Confidence เดือน มี.ค. Consensus คาด 106.7 (Vs เดือน ก.พ. 106.7)

TH รายงานดุลการค้าเดือน ก.พ. (Figure2): Consensus คาดขาดดุลลดลงเป็น -USD0.57bn. ส่งออกเติบโต +4.7% YoY นำเข้า +2.5% YoY (Vs เดือน ม.ค. ขาดดุลการค้า -USD2.76bn. ส่งออก +10% YoY นำเข้า +2.6% YoY)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ CK STEC BSRC

Strategic daily picks

CK    ปิด 22.70 บาท/แนวรับ 22.00 บาท แนวต้าน 23.50 บาท

มูลค่างานในมือของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงระดับกว่า 3 แสนล้านบาท เนื่องจากโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐหลายโครงการจะเร่งเปิดประมูลและเซ็นสัญญา เมื่อมีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 2H24 หลังจากการก่อสร้างของภาครัฐหดตัวไป 4.6% ในปี 2023 เนื่องจากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 1.84 พันล้านบาท (+22.78% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 26.81 บาท

 

STEC   ปิด 10.30 บาท/แนวรับ 9.60 บาท แนวต้าน 10.90 บาท

ปี 2024 ตั้งเป้ารายได้ 3.0-3.1 หมื่นล้านบาท จากปี 2023 ซึ่งในปี 2024 จะมีรายได้จากค่าก่อสร้างประจำปีที่ 2.95 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้ได้รวมรายได้จากการเริ่มต้นงานโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกไว้แล้วประมาณ 3 พันล้านบาท โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 563.31 ล้านบาท (+6.74% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 10.97 บาท

BSRC   ปิด 9.75 บาท/แนวรับ 9.25 บาท แนวต้าน 10.30 บาท

ผู้บริหารตั้เป้าหมายอัตราการกลั่นโรงกลั่นศรีราชา ณ สิ้นปี 2024 เฉลี่ยที่ 1.55 แสนบาร์เรล/วัน และจะเร่งตัวขึ้นแตะ 1.6 แสนบาร์เรล/วัน ในปี 2025 หนุนจากความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนร่วมกันทั้งเครือ BCP และ Synergy ด้านโลจิสติกส์ ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 4.81 พันล้านบาท (+124.70% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 11.93 บาท