วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TOP ประมาณการ 1Q67F: ค่าการกลั่นแข็งแกร่ง
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TOP ใน 1Q67F จะอยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (+9% YoY, +68% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันก้อนใหญ่และค่าการกลั่นดีขึ้น
เราคาดว่า TOP จะบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน 29 ล้านบาทใน 1Q67F ดีขึ้นจากที่บันทึกผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันก้อนใหญ่ 3.6 พันล้านบาทใน 1Q66 และ 3.3 พันล้านบาทใน 4Q66 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบขยับเพิ่มขึ้นจาก US$77/bbl ในเดือนธันวาคม 2566 มาอยู่ที่ US$84/bbl ในเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ เรายังคาดว่า GRM ของ TOP จะเพิ่มขึ้น 26% QoQ เป็น US$9.1/bbl เพราะ spread ของน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นเป็น US$17.9/bbl (+43% QoQ), spread ของน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น US$23.1/bbl (+9%QoQ) และต้นทุน Murban crude premium ลดลงมาอยู่ที่ US$1.1/bbl (-66% QoQ) แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะลดลง 9% QoQ เหลือ 280KBD เพราะหน่วย CDU#3 กำลังการผลิต 180KBD มีการปิดซ่อมบำรุงนอกแผนนาน 13 วันในเดือนมกราคม ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรจากธุรกิจอะโรเมติกส์จะฟื้นตัวขึ้น QoQ เพราะ spread ของ BZ-over-ULG95 พุ่งสูงขึ้นถึง 121% QoQ เป็น US$157/ton เนื่องจาก i) อุปทาน BZ ตึงตัวจากสภาพอากาศหนาวจัดช่วงสั้น (cold snap) ในสหรัฐ และ ii) อุปสงค์ BZ เพิ่มจากการตุนสต็อก ทั้งนี้ในส่วนของรายการพิเศษ เรคาดว่า TOP จะบันทึกกำไรพิเศษ 235 ล้านบาทจากการซื้อคืนพันธบัตรในสหรัฐซึ่งมียอดเงินต้นประมาณ 35 ล้านดอลลาร์ฯ ใน 1Q67
คาดว่าค่าการกลั่นใน 2Q67F จะลดลงกลับมาอยู่ระดับปกติมากขึ้น QoQ
ใน 2QTD67 spread ของน้ำมันเครื่องบินลดลง 30% QoQ เหลือ US$14.9/bbl และ spread ของน้ำมันดีเซลลดลง 28% QoQ เหลือ US$16.7/bbl เพราะอุปสงค์น้ำมันดีเซลที่สูงตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาวหมดไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม spread ของทั้งสองผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในเกณฑ์ดี (สูงกว่า US$15/bbl) เพราะได้แรงหนุนจาก i) โรงกลั่นหลายแห่งในเอเชียปิดซ่อมบำรุงตามกำหนด และ ii) สต็อกน้ำมันกลุ่ม middle distillate อยู่ในระดับต่ำ โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง ในขณะเดียวกัน spread ของน้ำมันเบนซินน่าจะได้แรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่งเนื่องจากเป็นช่วง driving season ของสหรัฐ ดังนั้น spread ของน้ำมันเบนซินจึงยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ US$17.5/bbl ใน 2QTD67 แทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ ดังนั้นเราจึงคาดว่าค่าการกลั่นในประเทศไทยจะลดลง QoQ ใน 2Q67F เพราะ spread ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลลดลง แม้ว่า spread น้ำมันเบนซินจะยังแข็งแกร่งก็ตาม
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ TOP โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 64.00 บาท อิงจาก adjusted EV/EBITDA ที่ 6.5x เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากใน 1Q67F เรายังคงเลือก TOP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงานของเรา เนื่องจากโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ซึ่งคาดว่าจะเริ่ม COD ใน 1H68F
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี
