วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ออกข้าง
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up ต่อเนื่อง บวกราว 12 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และไอซีที เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ สาเหตุหลักจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด
ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตามดัชนีมีแรงขายช่วงก่อนปิดตลาดทำให้ดัชนีลดช่วงบวก เหลือเพียง +6 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,376.37 จุด +6.45 จุด +0.47% มูลค่าการซื้อขาย 41,548 ลบ. Program Trading +2,714.00 ลบ. ต่างชาติ +1,796.52 ลบ. TFEX +35,033 สัญญา ตราสารหนี้ +1,000.05 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 31.99 จุด หรือ +0.08% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี การร่วงลงของหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงบวกในระหว่างวัน
+ คณะตัวแทนการเจรจาของอิสราเอลเดินทางถึงกรุงไคโรของอียิปต์ เพื่อเจรจาข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน
+ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่า รัสเซียจะไม่ปิดกั้นการเจรจากับชาติตะวันตก แต่ชาติตะวันตกจะต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกของตนเอง
+ สรท.มั่นใจส่งออกปี 67 โตอย่างน้อย 1-2% สินค้าเกษตรอย่างยางพาราและอาหารขยายตัวดี รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม แต่ต้อง จับตาปัจจัยเสี่ยงเรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้นทุนพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยทรงตัวที่ระดับสูง และค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นทุกเส้นทาง
+ ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการดูแลราคาพลังงาน ใช้เงิน 8,300 ล้านบาท ตรึงดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม LPG 423 บาทต่อถัง ตรึงค่าไฟช่วยกลุ่มเปราะบาง 3.99 บาทต่อหน่วย
+ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 5 พฤษภาคม 2567 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 78.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบ
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลง จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอ่อนตัวลง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,370-1,380 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน มี.ค.ที่ยังเติบโต : STA NER TRUBB TEGH XO ITC AAI
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC
หุ้นรายงานพิเศษ
TRUE (Bloomberg Consensus 9.18 บาท)
1Q67 ขาดทุนจากรายการพิเศษ
•TRUE ผลประกอบการใน 1Q67 มีรายได้เท่ากับ 51,347 ล้านบาท -1.9%QoQ และ -0.2%YoY โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ ที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ 4Q66 ได้ประโยชน์จากการเปิดตัว iPhone ใน 3Q66 อย่างไรก็ตาม ใน1Q67 บริษัทยังมีผลขาดทุนสุทธิ 769 ล้านบาท จากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการเติบโตในเชิงคุณภาพของจำนวนผู้ใช้บริการและรายได้ในระยะยาว ส่วนการบันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย จำนวน 1,571 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวดังกล่าว กำไรสุทธิหลังหักภาษีจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 380 ล้านบาทใน ไตรมาสก่อน
•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการของ TRUE จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และการมุ่งเน้นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงโครงสร้าง ประกอบกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมเริ่มเบาบางลง ราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) DELTA (Bloomberg consensus 68.50 บาท) คาดรายได้ครึ่งปีหลังจะเร่งตัวดีกว่าครึ่งปีแรก ย้ำเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2567 มีการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลัก มองธุรกิจที่เกี่ยวกับ EV Car และธุรกิจ Data Center ยังมีการเติบโต ปีนี้ไร้ปัญหา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SEAFCO (Bloomberg consensus 3.24 บาท) ตั้งเป้ารับงานรัฐมากขึ้นหลังงบประมาณปี 2567 ผ่านฉลุย หวังคว้างานประมูลค้างท่อ 30% จากมูลค่างาน 9 พันล้านบาท เผย 5 เดือนแรก คว้างานใหม่ 32 โครงการ รวมมูลค่า 875 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกทะลุ 1.6 พันล้านบาท มั่นใจปีนี้รายได้ตามเป้า 1,800 ล้านบาท แย้มอยู่ระหว่างเจรจารับงานรถไฟฟ้าใต้ดินบังกลาเทศ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GFPT (Bloomberg consensus 14.20 บาท) ส่งออกไก่เติบโต ตลาดยุโรปบูม ปีนี้คาดแตะ 3.2 หมื่นตัน ชี้ราคาไก่ทรงตัวระดับสูง 44-45 บาทต่อกิโลกรัม ดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ระบุโรงเชือดไก่แล้วเสร็จปลายปีนี้ ดันกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MAJOR (Bloomberg consensus 19.40 บาท) บูมภาพยนตร์ไทยต่อเนื่อง รับทรัพย์ "หลานม่า" ทำเงิน ควบคู่นำภาพยนตร์ฮอลลีวูดเข้าฉายครบทุกแนว หนุนรายได้งวดไตรมาส 2/2567 เติบโตต่อเนื่อง ซุ่มพัฒนาป๊อปคอร์นเมเจอร์รสชาติใหม่ออกจำหน่ายทั้งหน้าโรงภาพยนตร์ และ 7-11 กระตุ้นกำลังซื้อ (ที่มา ทันหุ้น)