วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี PTT ช่วง 2024 ยังผันผวนจาก Overhang ธุรกิจก๊าซฯ
มอง slightly negative ต่อข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ บนประเด็นของ outlook กำไร 2Q-4Q24F ที่มีแรงกดดันจากผลกระทบของ single pool ต่อโรงแยกฯ (GSP) และความเสี่ยงคือค่า short fall ก้อนที่ 2 ราว 4,700 ลบ. รวมถึงความเสี่ยงที่โรงผลิตโครงรถ EV อาจล่าช้า
เราคงมุมมองช่วงที่ราคามีแรงกดดันจะเป็นโอกาสทยอยสะสมเพื่อเก็งกาไรการฟื้นตัวใน 2025F คงคาแนะนา Trading Buy ต่อ PTT ที่ TP24F = 38.5 บาท/หุ้น
- ผู้บริหารมองธุรกิจก๊าซฯ 2024 มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยด้านบวกมาจากความต้องการใช้ของกลุ่มลูกค้าที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ 1Q24 +17% y-y, +10%q-q และ คาด u-rate โรงแยกก๊าซฯ (GSP) ขึ้นมาที่ 85-90% Vs. 2023 ราว 76% จากการปิดซ่อมที่ลดลงและความต้องการของกลุ่มปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีความท้าทายจากต้นทุนก๊าซฯของ GSP ที่เพิ่มขึ้นจากนโยบาย single pool price ซึ่งผลกระทบจะมาก/น้อยส่วนหนึ่งจะมาจากราคา LNG (บริษัทมอง JKM LNG price 2024 ราว 9.7-10.7 $/mmbtu -26% y-y มีแนวโน้มลดลงจาก supply ของ U.S. ที่เพิ่มขึ้น) โดยคาดจะเริ่มรับรู้ผลกระทบภายใน 2Q24 หลังภาครัฐอนุมัติหลักเกณฑ์คานวณราคา (ผลกระทบรับรู้ย้อนหลังของ 1Q24 ด้วย)
- ธุรกิจสำรวจฯ (E&P) คาดปริมาณขายโตตามสัมปทานใหม่ (PSC) แหล่งเอราวัณที่ผลิตเต็มสัญญา 800mmscfd ส่วนด้านอัตรากำไรลดลง ตามราคาขายก๊าซฯเฉลี่ยที่ลดลงหลังราคาขายของ PSC แหล่งใหม่ที่มีราคาลดลง เข้ามาฉุด
- ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี (P&R) ผู้บริหารมองเป็นปีที่ operation มีแรงกดดัน โดยฝั่งโรงกลั่นได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลง หลัง supply ตึงตัวน้อยลง เพราะ กำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยออกมาทั่วโลก คาดค่าการกลั่นสิงคโปร์ลงมาอยู่ที่ราว 5.7-6.7 $/bbl -9% y-y และ คาด u-rate ลดลงจากโรงกลั่น TOP มีปิดซ่อมตามแผน/นอกแผน ส่วนด้านธุรกิจปิโตรเคมี คาด demand จะไปฟื้นใน 2H24 หลัง 1H24 ชะลอตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า คาด product spread จะทรงตัว-ลดลง y-y จาก oversupply (กำลังการผลิตใหม่) โดยเฉพาะสาย PP
- ธุรกิจสถานีบริการ (OR) มองฟื้นตัวได้ตามความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มตามกำลังการบริโภค,การเดินทาง และการท่องเที่ยว
- ธุรกิจ new S-curve i) คงเป้า COD โรงงานผลิตรถ EV กำลังการผลิต 50,000 คัน/ปี ในปี 2025 ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้า และพิจารณาปรับแผนธุรกิจ และ ii) ธุรกิจ Life science คาดปริมาณขายเติบโตได้ตามความต้องการใช้ของเอเชีย และ US
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามอง slightly negative ต่อข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ แม้แผนธุรกิจ 2024 ส่วนใหญ่จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และทิศทาง 2024F ที่ชะลอ y-y จากธุรกิจก๊าซฯ, E&P และโรงกลั่น จะไม่ได้เหนือกว่าคาด แต่เรามองตลาดอาจกังวลต่อ overhang การแทรกแซงจากภาครัฐที่อาจกระทบผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 2024F อย่าง i) การเริ่มรับรู้ผลกระทบ single pool ของธุรกิจ GSP ใน 2Q24F และ ii) โอกาสที่ต้องตั้งคืนค่า short fall ก้อนที่ 2 ราว 4,700 ลบ. ใน 3Q24 หรือ 4Q24F (รัฐตั้งเป้านำเงินไปชดเชยราคาก๊าซฯ ก.ย. - ธ.ค. 24 ซึ่งเรารวมในประมาณการแล้ว) รวมถึงความเสี่ยงที่ Horizon Plus กำลังการผลิตโครงรถ EV 50,000 คัน อาจเจรจากับลูกค้าล่าช้า (เรายังไม่รวมในประมาณการ)
- คงมุมมองกำไรปกติ 2Q24F 2.5-2.6 หมื่นลบ. ลด y-y q-q ตามอัตรากำไรของ GSP ที่ถูกนโยบาย single pool ส่งให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และต้องรับรู้ภาระย้อนหลังของ 1Q24 ด้วย รวมถึงยังมีแรงฉุดจากธุรกิจ P&R (เฉพาะ q-q) ที่ค่าการกลั่นลดลงแรง โดยค่าการกลั่นสิงคโปร์ 2Q24TD -50% q-q จากกำลังการผลิตใหม่โรงกลั่นทั่วโลกที่ทยอย COD ส่งให้ supply ตึงตัวน้อยลง
- คงคำ แนะนำ Trading Buy ที่ TP24F = 38.5 บาท/หุ้น คงมุมมอง PTT ยังมี overhang ที่ส่งให้กำไรผันผวนในช่วงที่เหลือของปี แนะนำ รอทยอยสะสมช่วงที่ราคาหุ้นมีแรงกดดัน เพื่อเก็งกำไรการฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซฯใน 2025F จากผลกระทบค่า shortfall ลดลง -9,000 ลบ. และ มี PTTGC มาช่วยรับภาระปรับโครงสร้างก๊าซฯ รวมถึง ธุรกิจ P&R ฟื้นตัว จาก oversupply ของปิโตรเคมีที่ลดลง