เวสต์เทกซัส 75.53 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 79.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 มิ.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด กังวล Fed ชะลอลดดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบ ปรับลด หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่ง ในเดือน พ.ค. 67 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง สะท้อนว่าตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง เพิ่มความกังวลว่า Fed อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นในการเริ่มนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- นอกจากนี้ จีนรายงานตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 67 ลดลง 8.7% อยู่ที่ระดับ 11.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินและดีเซลในประเทศลดลง รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือน เม.ย.-พ.ค. 67 ที่ผ่านมา
+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งเป็น 2 ชาติสมาชิก OPEC+ ได้ออกมาระบุว่า พร้อมที่จะระงับหรือยกเลิกแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบหลังสิ้นสุดข้อตกลงลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจตามที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้
+/- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นจุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 มิ.ย. 67 ลดลง 4 แท่น อยู่ที่ระดับ 492 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ตั้งแต่ ม.ค. 65 ในขณะที่แท่นจุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 98 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 64
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสิงคโปร์รายงานตัวเลขส่งออกน้ำมันเบนซิน สำหรับสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. 67 เพิ่มขึ้น 24% มาอยู่ที่ระดับ 0.32 ล้านตัน สะท้อนอุปสงค์ในภูมิภาคที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังคงติดตามอุปสงค์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงฤดูร้อนนี้
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดหวังว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาอุปทานส่วนเกินในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์รายงานตัวเลขส่งออกน้ำมันดีเซล สำหรับสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. 67 ลดลง 14% มาอยู่ที่ระดับ 0.4 ล้านตัน สะท้อนอุปสงค์ในภูมิภาคที่อ่อนแอ