วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ การปรับลดลงในช่วงนี้ คือโอกาสซื้อที่ดีที่สุดใน 12-18 เดือนข้างหน้า
เศรษฐกิจที่สดใสหนุนการเติบโตในครึ่งหลังของปี 2567 วานนี้ (17 มิ.ย.) เราออกรายงานกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง (Strategy 2H24) โดยเรามีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจปี 2567 โดยเฉพาะการเร่งตัวในช่วงครึ่งปีหลังที่มาจาก
1) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ (คล้ายที่เกิดขึ้นในปี 2563 หลังงบล่าช้าจากการเลือกตั้ง 2562) 2) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/ วัน 3) การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท (Digital wallet) 4) การเปลี่ยนจากภาวะเอลนีโญ (El Nino) เข้าสู่ลานินา (La Nina) ซึ่งในช่วง 2549-66 เคยเกิดขึ้น 3 ครั้ง และทำให้รายได้เกษตรกรฟื้นตัวต่อเนื่อง 12-18 เดือน และเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแนวโน้มในครั้งที่ 4
4 ธีมการลงทุนในครึ่งปีหลัง บวกต่ออาหาร ค้าปลีก และหุ้นใหญ่ เรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม 4 ประการ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น 2) การกลับมาของการใช้จ่ายภาครัฐ 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเข้าสู่สภาวะลานิน่า (การเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกร) และ 4) การกลับมาของกองทุนลดหย่อนภาษี LTF ซึ่งธีมการลงทุนข้างต้น จะเป็นบวกกับกลุ่มที่อิงการบริโภคและกำลังซื้อ โดยเฉพาะ อาหาร ค้าปลีก ขณะที่เงินลงทุน LTF คาดจะหนุน Valuation หุ้นใหญ่ให้ปรับดีขึ้น และลดต้นทุนการเงินของบริษัทจดทะเบียน
เป้าหมาย SET ที่ 1,585 เป้าหมายดัชนี SET ของเราที่ 1,585 สำหรับปี 2567 ได้มาจาก EPS ที่ 99 บาทและ PE ล่วงหน้าที่ 16.0 เท่า เรามอง Valuation ของหุ้นไทยแข็งแกร่งในระดับ PE 13 เท่า หรือ 1,285 จุด การปรับลดลงในระดับต่ำกว่า 1,300 จุด เรามองเป็นโอกาสซื้อ // เราให้น้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด (Overweight) ในกลุ่มเหล่านี้ ธนาคาร การก่อสร้าง การเงิน อาหาร นิคมอุตสาหกรรม ค้าปลีก และสาธารณูปโภค // หุ้นเด่น (Top picks) ที่เราแนะนำคือ ADVANC, BSRC, BTG, CK, CPALL, CPF, KBANK, MTC, OSP, SCGP, TIDLOR และ TU
ภาพรวมกลยุทธ์ ทยอยแบ่งไม้ซื้อ เรามอง SET เข้าสู่จุดซื้อที่ดีที่สุดในรอบ 12-18 เดือน ข้างหน้า ด้วย Valuation ของ SET ที่แข็งแกร่งในระดับ 1,300 จุด ประเมินความเสี่ยงของการลงอยู่ที่ระดับ 1,270-1,290 และการลงถึงระดับ 1,100-1,200 จุด อยู่ในระดับต่ำ // หากงบปี 2568 ไม่สะดุด ผลของการเมืองต่อ SET Index จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นแนะนำ: CPALL*, TU*, OSP*, BTG*
แนวรับ: 1,270-1,290 / แนวต้าน : 1,311-1,335 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
ลุ้น 4 คดีชี้นำหุ้นไทย Uptick D-Day 1 ก.ค. นี้ จับตาการเมืองทุบหุ้นไทย จุลพันธ์ ลั่นคลังชงมาตรการฟื้นตลาดหุ้นแน่ ดึงกองทุนใหญ่จากบรูไน BIA เข้าร่วมลงทุนในไทย ติดตามความคืบหน้าของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย 4 คดี (ข่าวหุ้น)
จีนเผยการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ทรุดหนักในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผย การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในจีนลดลง 10.1% ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ลดลง 9.8% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. แม้ทางการจีนได้ออกมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์แล้วก็ตาม (อินโฟเควสท์)
รฟม. ลุ้นครม. ไฟเขียวร่างสัญญาร่วมทุน BEM เดินหน้ารถไฟฟ้าสีส้ม คาดจัดหาขบวนรถพร้อมให้บริการใน 2.5 ปี หลังศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องข้อพิพาท ลุ้นชง ครม. ไฟเขียว ก่อนเร่งจัดหาขบวนรถไฟฟ้า-ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเร็วสุดพร้อมให้บริการภายใน 2 ปี 6 เดือนนำร่องช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (อินโฟเควสท์)
คลังโยนพาณิชย์ ชี้ขาด มือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วม Digital Wallet ได้หรือไม่ หวั่นเอื้อสินค้าต่างชาติ พร้อมยืนยันกรอบเวลา ลงทะเบียนร้านค้าประชาชน Q3/67 (อินโฟเควสท์)
GULF จ่อประมูลไฟฟ้า ดีมานด์ Data Center ดันพอร์ต – GULF เตรียมพร้อมประมูลโรงไฟฟ้าใหม่เข้าพอร์ต สอดรับแผนพลังงานใหม่ ที่อยู่ระหว่างการทำเฮียริ่ง ส่วนปี 2567 คาดว่าจะเห็นประมูล 3.6 พันเมกะวัตต์ โดยเน้นพอร์ตพลังงานทดแทน (ทันหุ้น)
JMART ยกกรุ๊ปโต้ข่าวลือทุบหุ้นยัน BTS ไม่ขายทิ้ง แนวโน้มปีนี้โตแน่ไร้สัญญาณ Performance ตก - บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยในงาน Jaymart Group Analyst and Investor Meeting ชี้แจงประเด็นข่าวลบที่กดดันราคาหุ้นในกลุ่ม JMART โดยเฉพาะข่าวลือ กลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) มีแผนจะขายหุ้นบมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ภายหลังจากที่มีการขายหุ้นบมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) (อินโฟเควสท์)
ประกาศหุ้นเข้า SET50/ SET100 สำหรับครึ่งปีหลัง SET50: (+) BJC, TIDLOR, BCP, ITC (-) BANPU, SAWAD, COM7, KCE ในขณะที่ SET100 (+) BA, BJC, CKP, JAS, MBK, PRM, QH, SKY, TIPH // (-) AURA, BYD,FORTH, MOSHI, NEX, ORI, SNNP, THG, TKN เริ่มใช้ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 67
ประเด็นติดตาม 18 มิ.ย. – US Retail Sales (May), 4 คดีการเมืองสำคัญ
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)