วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ผลกระทบการเมืองต่อบรรยากาศลงทุนจะลดลง หากงบประมาณปี 68 ผ่านสภา

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ผลกระทบการเมืองต่อบรรยากาศลงทุนจะลดลง หากงบประมาณปี 68 ผ่านสภา

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะ “กำลังดี” สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก พ.ค. +0.1% MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +0.3% MoM (หากไม่รวมรถยนต์ -0.1% MoM ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะ +0.2% MoM)

ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น +0.9% MoM และ +0.4% YoY ภาวะที่ตัวเลขชะลอตัวและดีอย่างผสมผสาน เป็นภาวะที่กำลังดี (goldilocks) กับภาพรวมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อที่กำลังชะลออย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจก็ยังคงเติบโตไปได้ ขณะที่ความเห็นกรรมการเฟดโดยรวมที่ออกมาในช่วงนี้ แม้จะยืนยันการอดทนรอให้เงินเฟ้อชะลอ แต่ด้วยโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มีน้อยมากๆ ขณะที่โอกาสปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 3 เดือนข้างหน้า มีมากกว่า เราคาดนักลงทุนบางส่วนอาจเริ่มทยอยเพิ่มน้ำหนักในตราสารหนี้ และอาจทำให้หุ้นระยะสั้นผันผวน (โดยเฉพาะประเทศที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าสหรัฐฯ มากๆ)

ความกังวลการเมืองกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มค่อยๆผ่อนคลายลง วานนี้การพิจารณาคดี มีความชัดเจนเพียงเรื่องการเดินหน้าเลือกตั้งสว. ขณะที่อีก 3 คดี ไม่ว่าจะเป็น 1) คดีคุณทักษิณ 2) คดียุบพรรคก้าวไกล 3) คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี เข้าสู่การไต่สวนที่ต้องใช้เวลาพิจารณา แม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่การเข้าสู่กระบวนการพิจารณาที่ทำให้การพิจารณาร่างงบประมาณปี 2568 สามารถดำเนินไปได้ ช่วยลดความกังวลว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะสะดุดเพราะปัจจัยการเมือง และหลังร่างงบประมาณผ่านสภาฯ ผลกระทบการเมืองต่อการฟื้นตัวก็จะลดลงเหลือระดับต่ำมาก ทำให้เรายังคงมุมมองบวกต่อตลาดในช่วงครึ่งหลัง แม้ระยะสั้นอาจมีความผันผวนในช่วง มิ.ย.-ก.ค.ก็ตาม 


 

4 ธีมการลงทุนในครึ่งปีหลัง บวกต่ออาหาร ค้าปลีก และหุ้นใหญ่ เรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม 4 ประการ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น 2) การกลับมาของการใช้จ่ายภาครัฐ 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเข้าสู่สภาวะลานิน่า (การเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกร) และ 4) การกลับมาของกองทุนลดหย่อนภาษี LTF ซึ่งธีมการลงทุนข้างต้น จะเป็นบวกกับกลุ่มที่อิงการบริโภคและกำลังซื้อ โดยเฉพาะ อาหาร ค้าปลีก ขณะที่เงินลงทุน LTF คาดจะหนุน Valuation หุ้นใหญ่ให้ปรับดีขึ้น และลดต้นทุนการเงินของบริษัทจดทะเบียน

ภาพรวมกลยุทธ์ ทยอยแบ่งไม้ซื้อ เรามอง SET เข้าสู่จุดซื้อที่ดีที่สุดในรอบ 12-18 เดือน ข้างหน้า ด้วย Valuation ของ SET ที่แข็งแกร่งในระดับ 1,300 จุด ประเมินความเสี่ยงของการลงอยู่ที่ระดับ 1,270-1,290 และการลงถึงระดับ 1,100-1,200 จุด อยู่ในระดับต่ำ // // หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับครึ่งปีหลัง 2567 ที่เราแนะนำคือ ADVANC, BSRC, BTG, CK, CPALL, CPF, KBANK, MTC, OSP, SCGP, TIDLOR และ TU

หุ้นแนะนำ: TU*, OSP*, BTG*, VRANDA*

แนวรับ: 1,270-1,290 / แนวต้าน : 1,311-1,335 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติคุย Bloomberg ไม่เห็นด้วยปรับกรอบเงินเฟ้อ เพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจ  ส่วนหนึ่งในคำให้สัมภาษณ์ ผู้ว่าฯแบงก์ชาติของไทยกล่าวว่า การปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออาจไม่ให้ผลลัพธ์ตามความคาดหวังและอาจส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นอีก  บลูมเบิร์กบรรยายว่า ความคิดเห็นของผู้ว่าฯ เน้นย้ำให้เห็นถึงความดื้อรั้น ของธนาคารกลางที่เผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลให้ลดดอกเบี้ย (ประชาชาติ) 

 

ตลท. ยัน Uptick พร้อมใช้ 1 ก.ค. นี้ แต่เลื่อน Circuit Breaker รายหุ้นไป Q3/67 ส่วน Auto Halt ขยับไปปีหน้า ตลท. เตรียมประกาศรายชื่อหุ้นที่ Short Sales ได้ 24 มิย. นี้ พร้อมใช้เกณฑ์ Uptick วันที่ 1 ก.ค.  แย้มยังมีอีกหลายมาตรการ หากความเชื่อมั่นนักลงทุนยังไม่ฟื้นตัว ส่วน Circuit Breaker รายหุ้นเลื่อนออกไปใช้ Q3/67 Auto Halt ขยับไปเป็นปีหน้า (อินโฟเควสท์) 

'ดูไบเวิลด์' จ่อพบนายกฯ 1 ก.ค.นี้ ส่งสัญญาณลงทุน 'แลนด์บริดจ์' - “สุริยะ” มั่นใจโครงการเกิดแน่ในรัฐบาลนี้ เร่งเสนอร่าง พ.ร.บ.SEC เข้า ครม.ภายใน ก.ย.นี้ ก่อนออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนภายในไตรมาส 4 ปี 2568 (กรุงเทพธุรกิจ)

PTG - คว้าสปอนเซอร์งาน โมโตจีพี 3 ปีรวด ตั้งเป้าปีแรกคนเข้างานร่วมกว่า 2 แสนราย ด้านเป้ายอดขายน้ำมันปีนี้ย้ำโต 10-12% (อินโฟเควสท์)

NRF ร่วงติดฟลอร์ - ราคาหุ้น บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในภาคบ่าย โดยมีการเทขายออกมาด้วยออร์เดอร์ล็อตใหญ่หลังจากราคาลงมาแถว ๆ 4.00 บาท คาดว่าอาจถูกฟอร์ซเซล เพราะจากข้อมูลพบการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันมาร์จิ้นไว้ค่อนข้างมาก แม้จะเห็นคำสั่งซื้อพยายามเข้ามารับไว้ แต่ไม่สามารถช่วยดันราคาหุ้นกลับขึ้นไปได้ (อินโฟเควสท์)

มูลค่าการขายชอร์ตเซลล์ – มูลค่าการขายชอร์ตมากสุด 5 อันดับแรกวานนี้ ได้แก่ PTT, BBL, KBANK, CPALL, BDMS 

 

ประเด็นติดตาม 20 มิ.ย. – BoE Interest  Rate Decision, 21 มิ.ย. – JP CPI (May)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)