วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ปรับเงื่อนไข ThaiESG

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ปรับเงื่อนไข ThaiESG

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up ได้แรงหนุนจากการแถลงข่าวมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนโดยกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.ล.ต. และ ตลท. ช่วงเย็นวานนี้ ซึ่ง รมช.คลัง กล่าวว่ากระทรวงการคลัง จะเลือกใช้กองทุน Thai ESG ในการขับเคลื่อนตลาด

มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพาณิชย์ พลังงาน และธนาคาร มีแรงขายในหุ้นกลุ่มขนส่ง นำโดย AOT จากบอร์ดบริษัทอนุมัติให้เรียกคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทำให้เกิด ความกังวลรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ลดลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,316.73 จุด +10.32 จุด +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 38,354.24 ลบ. Program Trading +234.83 ลบ. ต่างชาติ -1,087.97 ลบ. TFEX +169 สัญญา ตราสารหนี้ -3,081.82 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 260.88 จุด หรือ +0.67% ได้ปัจจัยหนุนจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ รวมทั้งการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 1% เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ +1.11% ปิดที่ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่าอุปสงค์น้ำมันในฤดูขับขี่ยานยนต์ในช่วงหน้าร้อนของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง รวมทั้งคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการที่ยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซียจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาด
+ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยตัวเลขการลงทุนของคนต่างชาติในไทยช่วง 5 เดือนปี 67 มีจานวน 317 ราย เพิ่มขึ้น 16% นำเงินเข้า 71,702 ล้านบาท เพิ่ม 58%
+ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นพ้องที่จะเสนอขออนุมัติต่อ ครม. ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าปรับเงื่อนไข ThaiESG ด้วยการขยายวงเงินการนำวงเงินลงทุนไปขอลดหย่อนภาษีเงินได้ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท จากเดิมสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท และปรับลดระยะเวลา ถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อจากเดิม 8 ปี คาดหวังมีเม็ดเงินใหม่ 3 หมื่นล้านบาท คาดเงินเข้าตลาดหุ้นได้ไตรมาส 3

 


 

 

 

+ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกในเดือน มิ.ย. มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้อง กับมุมมองของกระทรวงพาณิชย์ โดยมองว่ามูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ จะกลับมาขยายตัวได้ 2.6% จากแรงสนับสนุนหลายด้าน

ปัจจัยลบ  

- ธนาคารกลางสหรัฐสาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -15.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -19.4 ในเดือนพ.ค. ดัชนียังคงมีค่าเป็นลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัสจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการชะลอตัวของการจ้างงาน
- สหรัฐและบรรดาชาติพันธมิตรซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันประณามความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าความร่วมมือของทั้งสองประเทศได้สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวดและเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของภูมิภาค
- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายได้ด้านการคลังของจีนลดลง 2.8%YoY ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 หลังปรับตัวลดลง 2.7% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- รมว.คลัง ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกชอร์ตเซลเพราะขัดกับหลักสากล เป็นผลเสียในระยะยาว

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากการปรับเงื่อนไข ThaiESG ด้วยการขยายวงเงินการนำวงเงินลงทุนไปขอลดหย่อนภาษีเงินได้ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท และปรับลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี คาดดัชนีในวันนี้ที่ 1,310 -1,325 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

•หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 เข้า มีผล 1 ก.ค. : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN
• สินค้าส่งออกเดือน พ.ค. เติบโตดี : HANA KCE CCET AAI ITC STA NER
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CFP PTTGC SCC 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TRP "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 17.00 บาท
คาดผลประกอบการ 2Q67 เติบโต QoQ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ปรับเงื่อนไข ThaiESG

คาดผลประกอบการ 2Q67 จะเติบโตจาก 1Q67 เนื่องจากเริ่มจับตลาดในกลุ่มลูกค้า ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น รวมถึงขยายตลาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจากการใช้พรีเซนเตอร์วัยรุ่น นอกจากนี้คาดว่าการเป็นพันธมิตรกับ KKC Clinic จะเห็นผลเต็มไตรมาสเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

การก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ของ ธีรพร คลินิก ซึ่งจะมีพื้นที่ใช้สอย 9,918 ตารางเมตร และใหญ่กว่าที่ปัจจุบัน 5 เท่าคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนภายใน 4Q67 โดยหลังแล้วเสร็จจะย้าย ธีรพร คลินิก จากถนนคลองสานมาที่โรงพยาบาลใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางผู้บริหาร ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าที่คลินิกคลองสานจะดำเนินธุรกิจต่อหรือคืนพื้นที่เช่าเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง

ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย PE Ratio ย้อนหลัง 2 ปีของหุ้นที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกัน อาทิ KLINIQ และ MASTER ได้ค่าเฉลี่ย 28 เท่า ทั้งนี้เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2567 ราว 0.60 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2567 อยู่ที่ราว 17.00 บาทซึ่งมี upside อีกราว 40% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(0) AOT (Bloomberg consensus 74.00 บาท) แจงเรียกคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ หวังเพิ่มศักยภาพภายในท่าอากาศยาน และรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เบื้องต้นคาดว่าทั้งปี 2566-2567 จะเติบโตได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 70.30 ล้านคน สะท้อนจากช่วงโลว์ซีซันไตรมาส 3/2566-2567 (เม.ย.-มิ.ย.) ยังเติบโต YoY เป็นอย่างมาก ย้ำชัดมีแผนเพิ่มรายได้ด้านอื่นมาชดเชยได้อย่างมีนัยสำคัญ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg consensus 10.10 บาท) ลั่นยอดขายร้านกาแฟพันธุ์ไทยปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30-35% หนุนจากการเดินหน้าขยายสาขาไม่หยุด วางเป้าปีนี้แตะ 1,282 สาขา ล่าสุดลงนามความร่วมมือกับ บยส. หนุนค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ที่ต้องการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ "ร้านกาแฟพันธุ์ไทย" ตั้งเป้าช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TTCL (Bloomberg consensus - บาท) คาดธุรกิจพลังงานชีวมวลอัดเม็ด จะเริ่มจำหน่ายต้นปี 2568 ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทญี่ปุ่น คาดจะเป็นรายได้เสริม ส่วนธุรกิจด้าน EPC ที่เป็น 2 โครงการขนาดใหญ่ 2 มูลค่า 8 พันล้านบาท เลื่อนก่อน แต่ยันไม่กระทบต่อเป้า Backlog ใหม่ แต่อาจกระทบการรับรู้รายได้ที่ช้าลง ทำให้รายได้ปีนี้มีโอกาสเท่ากับปีก่อนได้ พร้อมเดินหน้าออกหุ้นกู้ มูลค่า 1 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PQS (Bloomberg Consensus - บาท) ดีลร่วมมือพาร์ตเนอร์ใหม่ต่อยอดธุรกิจต้น-ปลายน้ำ สยายปีกรับทรัพย์ คาดชัดเจนภายในปี 2567 พร้อมปักธงปี 2567 ยอดขายโต 10-20% จากปีก่อนที่ราว 1.6 แสนตัน รับอัพเกรดไลน์ผลิต-ราคาขายหนุน ฟาก "มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์" ในฐานะ ประธานกรรมการคนใหม่ เล็งนาโนฮาว ลุยโมเดล เพิ่มมูลค่าการเติบโตยั่งยืน (ที่มา ทันหุ้น)