วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TOP ประมาณการ 2Q67F เป็นบวกมากกว่าคาด

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TOP ใน 2Q67F จะอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท (+356% YoY, -13% QoQ) โดยกำไรที่
เพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะ i) มีกำไรพิเศษประมาณ 900 ล้านบาท จากการซื้อคืนพันธบัตรสหรัฐในเดือนเมษายน และ ii) คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 2.4 พันล้านบาทใน 2Q67 ดีขึ้นจากที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 1.9 พันล้านบาทใน 2Q66 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น US$85/bbl ใน 2Q67 ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะค่าการกลั่นลดลง โดยเราคาดว่า market GRM ของ TOP จะลดลงถึง 56% QoQ เหลือ US$3.9/bbl เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลลดลง 27% QoQ เหลือ US$13.1/bbl, 37% QoQ เหลือ US$21.1/bbl และ 36% QoQ เหลือ US$14.8/bbl ตามลำดับ จากการเข้าสู่ช่วง low season ของโรงกลั่นในไตรมาสที่สอง แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบของ TOP จะดีดตัวขึ้น 5% QoQ เป็น 303 KBD เนื่องจากไม่มีการปิดหน่วย CDU #3 กำลังการผลิต 180KBD โดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้านาน 13 วันเหมือนกับใน 1Q67 นอกจากนี้ spread ของ PX-over-ULG95 ยังเพิ่มขึ้น 10% QoQ เป็น US$203/ton และ spread ของ BZ-over-ULG95 เพิ่มขึ้น 36% QoQ เป็น US$214/ton จากอุปทานที่ตึงตัวขึ้น เพราะโรงงาน aromatics ในเอเชียมีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนใน 2Q67 ทั้งนี้เราคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตในสาย aromatics ของ TOP จะฟื้นตัวขึ้น QoQ จาก 76% เป็น 80%

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F เพราะกำไรพิเศษจากการซื้อคืนพันธบัตร

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F ขึ้นอีก 13% เป็น 1.68 หมื่นล้านบาท เพราะเราเพิ่งปรับเพิ่มกำไรพิเศษ 1.1 พันล้านบาทจากการซื้อคืนพันธบัตรสหรัฐเข้ามาในประมาณการของเรา หลังจากที่ TOP ทำการซื้อคืนหุ้นกู้จากตลาดรองและยกเลิกหุ้นกู้นี้เป็นวงเงินต้น 120 ล้านดอลลาร์ฯ ไปใน 1H67 นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการกลั่นน้ำมันดิบของ TOP ขึ้นอีก 2% เป็น 302 KBD ในปีนี้ เนื่องจากเราคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบใน 2Q67 จะอยู่ที่ 303 KBD ซึ่งดีกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าบริษัทจะมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วย CDU #1 กำลังการผลิต 45 KBD ตามแผนนาน 10 วันในเดือนพฤษภาคม

Valuation & action

เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2567F เป็น 62.00 บาท จากเดิม 60.00 บาท (ดูบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ
KGI ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน) อิงจาก adjusted EV/EBITDA ที่ 6.5x เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่ม
ประมาณการกำไรปีนี้ นอกจากนี้ เรายังคงคำแนะนำซื้อ TOP เพราะเราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจาก
i) ผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาดีใน 2Q67F, ii) ค่าการกลั่นที่สูงขึ้นใน 3Q67F เพราะอุปสงค์น้ำมันเบนซินแข็งแกร่งขึ้นจากการเข้าสู่ driving season ของสหรัฐ และ EU นำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นก่อนเข้า
หน้าหนาว และ iii) มีโอกาสที่โรงกลั่นในสหรัฐอาจจะหยุดชะงักจากฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่สูงกว่าปกติในปีนี้ นอกจากนี้ สำหรับปีนี้ เรายังคาดว่าอัตรากำไรจากการกลั่นของ TOP จะต่ำสุดใน 2Q67F ในขณะที่จะทยอยปรับตัวดีขึ้นใน 3Q67F และต่อเนื่องไปใน 4Q67F

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี