กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ

พอร์ตหุ้นเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 3.3% และแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโดยรวม

ในเดือนกรกฎาคม ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก โดยในช่วงครึ่งเดือนแรก ตลาดได้แรงหนุนจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่น i) สัญญาณการลดดอกเบี้ยสหรัฐที่ชัดเจนขึ้น ii) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกวิ่งขึ้นมาแรง ทำให้หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ของไทยวิ่งขึ้นตามไปด้วย iii) กระแสเงินทุนไหลชะลอตัวลง เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดดูน่าสนใจมากขึ้น และ มีการนำเกณฑ์ uptick rule สำหรับ short sell มาใช้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET เผชิญแรงขายหนักขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ในภาคการเงินของไทย และความเสี่ยงทางด้านเครดิต (credit risk) ของบริษัทจดทะเบียนจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ EA* อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือน หลังสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ไทย ซึ่งทำให้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มที่อิงกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง

มุมมองตลาดเดือน ส.ค. คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้น หนุนโดยปัจจัยในประเทศที่เป็นบวกมากขึ้น

ในเดือนสิงหาคม เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มดัชนี SET โดยเราคนาดว่าตลาดจะยังคงผันผวนในช่วงครึ่งเดือนแรกเนื่องจาก i) อยู่ในช่วงท้ายของสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 สิงหาคม และ คดีสถานะของนายกเศรษฐา และคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 สิงหาคม ii) ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับประเด็น EA* ซึ่งอาจจะกระทบกับความเชื่อมั่นของตลาดไปจนกว่าจะมีความชัดเจนว่าบริษัทจะทำอย่างไรกับหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน (1.5 พันล้านบาทในเดือน ส.ค. และ 4.0 พันล้านบาทในเดือน ก.ย.)

ในขณะเดียวกัน เราเชื่อว่าตลาดน่าจะแข็งแรงขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลัง จากความชัดเจนของประเด็นดังกล่าวข้างต้น, GDP ไทยใน 2Q67 น่าจะแข็งแกร่งกว่าใน 1Q67 และ ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เช่น digital wallet และแผนการออกกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่

หุ้นเด่นเดือนสิงหาคม: BBL*, KTB*, CPALL*, BEM* and TRUE*

เนื่องจากเรามองบวกมากขึ้นจากปัจจัยในประเทศเดือนสิงหาคม นักลงทุนจึงควรโยกมาลงทุนในหุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากความชัดเจนทางการเมือง, อัตราการขยายตัวของ GDP ที่น่าจะเร่งตัวขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ ตลาดหุ้น

BBL* และ KTB*: เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้นยังเปราะบาง เราจึงเลือกธนาคารที่มีความเสี่ยงทางธุรกิจต่ำ และมี buffer หนี้เสียในระดับสูง ในขณะเดียวกัน เมื่อมองภาพรวมของทั้งกลุ่ม ราคาหุ้นที่ต่ำแล้วและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงน่าจะทำให้มี downside จำกัด

CPALL*: เราเชื่อว่า CPALL จะได้อานิสงส์จากทั้งกระแสข่าวเรื่องมาตรการ digital wallet และ การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน Thai ESG โดย CPALL เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีน้ำหนักมากในดัชนี SETESG

BEM*: เราคาดว่ากำไรของ BEM ใน 2Q67 จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่โครงการรถไฟฟ้า รฟม. สายสีส้มที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจะมาช่วยเติมงานโยธาฯ ให้บริษัทในช่วงอีกสองสามปีข้างหน้า

TRUE*: เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ TRUE จะพลิกฟื้น YoY และ เพิ่มขึ้น 36% QoQ นอกจากนี้
TRUE ยังจะได้แรงหนุนจากธีมอย่างเช่นความคาดหวังว่าจะเห็น synergy เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ และ
ต้นทุนการระดมทุนที่ลดลงหลังจากที่เพิ่งมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิต

 

 

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - กลับมาเน้นหุ้นธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ