วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ อาจเผชิญภาวะถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอ และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงกว่าคาดการณ์ มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,313.08 จุด -9.67 จุด -0.73% มูลค่าการซื้อขาย 34,650.56 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +5.87 จุด 0.45%) Program Trading -1,438.19.81 ลบ. ต่างชาติ -1,842.57 ลบ. TFEX -28,315 สัญญา ตราสารหนี้ +6,793.57 ลบ.
ปัจจัยบวก
+รัฐบาลเร่งผลักดันมาตรการภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นช่วย ค่าครองขีพ และโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งเป็น หนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้
+นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันตกลงจะไปซื้อของไหมร่วมดีเบตกับนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตในวันที่ 4 ก.ย.นี้
ปัจจัยลบ
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 610.71 จุด หรือ -1.51% และดัชนี Nasdaq เข้าสู่ระยะปรับฐาน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตร ต่ำกว่าคาดมากและอัตราว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ทำให้ตลาดวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
-สัญญาณน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2.79 ดอลลาร์ หรือ-3.66% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้การจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนกดดันตลาด
-ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดลงแรง กังวลเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
-สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 177,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจาก 179,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%
-อิสราเอลเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หลังจากผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาส ถูกลอบสังหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กังวลว่าอาจมีการยิงขีปนาวุธและโดรนมายังดินแดนอิสราเอลหลายระลอกในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อตอบโต้ ที่อิสราเอลได้สังหารนายอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำของกลุ่มฮามาส และ นายฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
-กระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงเก้าเดือนแรกของปีงบประมาณ 67 มีรายได้สุทธิ 2.0 1 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการ 1.3% แม้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.8%
- เว็บไซต์ดิ อินฟอร์เมชัน (The Information) เปิดเผยว่า ข้อบกพร่องในการออกแบบอาจทำให้เกิดความล่าช้า 3 เดือนหรือมากกว่าในการเปิดตัวชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ของอินวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับลูกค้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ และอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน ก.ย. เป็นปัจจัยพยุงดัชนี มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,300-1,320 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE : GULF ADVANC TRUE INSET ITEL
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ได้แก่ CPALL BJC DOHOME GLOBAL HMPRO TNP KK
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
หุ้นรายงานพิเศษ
Preview 2Q67 กลุ่มโรงพยาบาล
"มุุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้ม 2Q67 ของกลุ่ม แต่คาด 2H67 จะเร่งโตดี
•คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 ของกลุ่ม รพ.ขนาดใหญ่ คงเติบโตต่อเนื่อง YoY แต่อ่อนตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เติบโต YoY มาจากจำนวนผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นประกอบกับการปรับเพิ่มค่าบริการรักษา อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการลดลง QoQ มาจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง ประกอบกับยังมีผลของช่วงรอมฎอนอีกราว 10 วัน ซึ่งแต่ละรพ.มีสัดส่วนคนไข้ต่างชาติดังนี้ BDMS (30%) BH (66.5%) และ BCH (16%) อย่างไรก็ตาม คาด BCH จะมีผลประกอบการ 2Q67 โดดเด่นสุดในกลุ่มซึ่งคาดโตทั้ง YoY และ QoQ จากทั้งกลุ่มคนไข้ชาวไทยทั่วไปและกลุ่มประกันสังคมช่วยชดเชยรายได้คนไข้ต่างชาติที่ลดลง จากการเข้าสู่ฤดูฝนเร็วขึ้นราวช่วงกลางเดือน พ.ค. ประกอบกับกลุ่มคนไข้ประกันสังคม (สัดส่วน 34%) มีการปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเมื่อ 1 พ.ค. 66 และมีการปรับเพิ่มโควตาคนไข้ประกันสังคมราว 20% ตั้งแต่ช่วงต้นปี 67 ทำให้จำนวนผู้ประกันตนทยอยปรับเพิ่มขึ้น
•ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 ของกลุ่ม รพ.ขนาดใหญ่ แต่คาด 2H67 จะเร่งโตดี เราคาดผลประกอบการจะฟื้นโตดีทั้งกลุ่มตั้งแต่ 3Q67 เป็นต้นไป จากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เกิดโรคประจำฤดูและโรคระบาด และ 4Q67 เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของต่างชาติ โดยเราชื่นชอบ BCH ที่ยังมีปัจจัยเติบโตเฉพาะตัวเพิ่มเติมจากการขยายกำลังการให้บริการ ได้แก่ 1) เปิดให้บริการคลินิกมะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี 2) รถทันตกรรมเคลื่อนที่และศูนย์ Sleep Test และ 3) ล่าสุด MOU ร่วมกับ KCCS สมาคมแพทย์ศัลยกรรมความงามเกาหลี ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรและราคาเหมาะสมปี 67 ของ BCH ราว 1,685 ลบ. +20%YoY (โตดีสุดในกลุ่ม) และ 23 บาท Upside 35% แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) SINGER (Bloomberg Consensus 11.10 บาท) เดินหน้าสร้าง "New Business - New Growth Engine" ตอกย้ำผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่มีเครือข่ายการขายครอบคลุมทั่วประเทศ จ่อออกหุ้นกู้ระยะสั้น 12 วัน อัตราดอกเบี้ย 6.5% เพื่อเพิ่มทุนใน SGC ต่อยอดบริการด้านไฟแนนซ์ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทรานส์ฟอร์มเป็น "เน็ตเวิร์กเทค" ด้วยสินเชื่อ SG Finance+ เผยพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone เดือนกรกฎาคมทะลุเป้า พร้อมเสริมทัพบริการใหม่ ประกันภัยมือถือ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) INSET (Bloomberg Consensus 2.94 บาท) ประกาศเดินหน้าเจรจางานสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ 2 โครงการ ระดับ Hyperscale คาดชัดเจนครึ่งปีหลังนี้ เผยตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ดีต่อเนื่อง รัฐผลักดัน Direct PPA สร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการ มีไฟฟ้าสะอาดรองรับ "ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต" ย้ำเป้ารายได้โต 5-10% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PHG (Bloomberg Consensus 21.00 บาท) อากาศเปลี่ยนแปลงเข้าหน้าฝน หนุน Q3/2567 ฟอร์มแจ่ม แถมปักหมุดเป้าปีนี้รายได้ทะยาน 13-15% จากปีก่อน อานิสงส์ฐานผู้ใช้บริการโตต่อเนื่อง พร้อมควักงบกว่า 500 ล้านบาท อัพเกรดอุปกรณ์ทางการแพทย์-สร้างอาคารใหม่ สยายปีกรับทรัพย์อนาคตเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IHL (Bloomberg Consensus - บาท) ธุรกิจผลิตรองเท้าดันผลงานครึ่งปีหลัง 2567 เติบโตเด่น จ่อบุ๊กรายได้ปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจเบาะหนังรถยนต์ปีนี้แม้ยังทรงตัว แต่ดีกว่าปีก่อน ลุยขยายธุรกิจใหม่ที่มีอัตรากำไรสูง ธุรกิจสัตว์เลี้ยง-คอลลาเจน เดินหน้าอัพฐานตลาดในไทย-ต่างประเทศ พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2,500 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)