วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก พักตัว
วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up ได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาประธานเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและคาดจะเสนอขายช่วงปลาย เดือนก.ย. หรือต้นเดือนต.ค.นี้ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มขนส่ง อสังหาฯ พลังงาน และวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,364.81 จุด +9.94 จุด +0.73% มูลค่าการซื้อขาย 47,339.20 ลบ. Program Trading -34.32 ลบ. ต่างชาติ +553.07 ลบ. TFEX +4,480 สัญญา ตราสารหนี้ -1,245.08 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 65.44 จุด หรือ +0.16% แต่ดัชนี S&P500 ปิดลบโดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ +3.5% ปิดที่ 77.42 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากลิเบียประกาศระงับการผลิตน้ำาน ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในตะวันออกกลางกำลังส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 30% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
+ ธนาคารกลางสหรัฐสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ใน 3Q67
+ BOI อนุมัติ'เวสเทิร์น ดิจิตอล' ดำเนินโครงการขยายฐานผลิตฮาร์ดดิสก์มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาทที่จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปราจีนบุรี สะท้อนการเติบโตของเทคโนโลยีคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ รองรับกลยุทธ์ไทยผู้นำฐานผลิตฮาร์ดดิสก์ระดับโลก
ปัจจัยลบ
- เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้งใจกลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน โดยกองทัพยูเครนประกาศเตือนประชาชนถึงการโจมตีครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียส่งโดรนมาโจมตีระลอกหนึ่งแล้ว
- ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เปิดเผยว่าจะประเมินผลการใช้จรวดและโดรนโจมตีอิสราเอล เพื่อพิจารณาว่าจะโจมตีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ตอบโต้ที่ผู้บัญชาการทหารที่ถูกลอบสังหาร
- แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์เปิดเผยว่าการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาที่ประเทศอียิปต์ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ เนื่องจากกลุ่มฮามาสและอิสราเอลต่างไม่ยอมประนีประนอมตามข้อตกลงที่นำเสนอโดยประเทศตัวกลาง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัว หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง หนุนกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,360-1,370 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• FTSE Large Cap เข้า – ออก CRC EA MINT PTTGC OR FTSE Mid Cap เข้า – ออก BLA มีผล 6 ก.ย.
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
หุ้นรายงานพิเศษ
CCET ("ซื้อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus 4.30 บาท)
รายงานกำไร 2Q67 +100%YoY และ +34%QoQ
•รายงานกำไร 2Q67 ที่ 745 ลบ.+100%YoY และ+34%QoQ แม้ว่ารายได้ +13%QoQ แต่-11%YoY สู่ 3.6 หมื่นลบ. เนื่องจากลดสัดส่วนสินค้า Low margin หันไปผลิตสินค้า High margin เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 5.3% ใน 1Q67 เป็น 5.7% จากรับผลิตสินค้า High Margin เพิ่มขึ้น อาทิ EV Charger, SSD และ Smart wearable ทั้งนี้รายงานกำไร 1H67 ที่ 1.3 พันลบ. +102%YoY
•ผู้บริหาร เผยกำลังการผลิตในปัจจุบันทั้งโรงงานที่สมุทรสาครและเพชรบุรีเต็ม กำลังการผลิตแล้วและอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จ 4Q67 และ เริ่มรับคำสั่งซื้อใหม่ได้ในปี 2568 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นสินค้า High margin เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ 2H67 รายได้จะไม่เติบโตมากนัก
•ความเห็น Bloomberg Consensus คาดว่ากำไรปี 67 และ 68 จะเติบโต 113% และ 13% สู่ 2.4 พันลบ. และ 2.7 พันลบ. โดยกำไร 1H67 คิดเป็น 54% ของประมาณการ ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการ 3Q67 จากที่โรงงานทั้ง 2 แห่งใช้กำลังการผลิตเต็มแล้ว และเงินบาทที่แข็งค่าเป็นปัจจัยกดดันต่อรายได้และกำไรของบริษัทที่รับเป็นเงินดอลลาร์ 100% อีกทั้งราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 71%YTD เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
หุ้นมีข่าว
(+) HL (Bloomberg Consensus - บาท) “เฮลท์ลีด” ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โต 15% จากเดิมตั้งไว้ 10% รับอานิสงส์ยอดขายร้านขายยาสาขาเดิมเพิ่มขึ้น บวกการเปิดสาขาใหม่อีก 20 สาขาในปีนี้ ขณะที่คาดผลงานไตรมาส 3/67 รายได้โตต่อเนื่อง หลังยอดขายสาขาเดิมโต และจ่อเปิดร้านขายยาใหม่ 6 สาขา ส่วนไตรมาส 4/67 เล็งเปิดเพิ่มอีก 9 สาขา นอกจากเตรียมออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ 10 รายการ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) TEGH (Bloomberg Consensus 4.80 บาท) เผยบริษัทย่อย “ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP)” เซ็นสัญญาขายก๊าซชีวภาพกับ GGC ปริมาณ 40,000-57,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ผูกสัญญา 7 ปี พร้อมซื้อขายภายในตุลาคมนี้ ฟากเอ็มดี “สินีนุช” มั่นใจช่วยผลักดันผลงานเติบโตอย่างมั่นคง จากรายได้ประจำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นปีละ 150 ล้านบาท ต่อยอด BCG Model สู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) IP (Bloomberg Consensus - บาท) “อินเตอร์ ฟาร์มา” คาดผลงานครึ่งปีหลังแจ่มกว่าครึ่งปีแรก หนุนรายได้รวมปีนี้แตะ 2,200 ล้านบาท เติบโต 25-30% เดินหน้าขยายสาขาร้านยาแบรนด์ “Lab Pharmacy” พร้อมส่งผลิตภัณฑ์เวชส้าอางท้าตลาดเพิ่มยอดขายต่อเนื่อง (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) WHAUP (Bloomberg Consensus 5.20 บาท) คว้างานติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “SPM Group” 9 เมกะวัตต์ ลุย Solar Floating-Solar Farm-Solar Carpark นอกนิคมฯ เริ่มจ่ายไฟปี 68 ด้านผลงานปีนี้มั่นใจโตเด่น ยอดขายน้ำตามเป้า 178 ล้านลูกบาศก์เมตร-ไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์ ย้ำครึ่งปีหลังธุรกิจโตต่อเนื่อง ลุยเจรจาขายไฟลูกค้า Data Center (ที่มา ข่าวหุ้น)