วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SPALI การซื้อ JV ใหม่ในออสเตรเลียใกล้จะปิดดีลแล้ว
แผนจะซื้อ JV เพิ่มใหม่ 12 โครงการในออสเตรเลียที่รอคอยมานานใกล้ปิดดีลแล้ว
SPALI ได้ร่วมเซ็นสัญญากับ Stockland Communities Partnership ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Stockland Corp ที่เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหา ฯ จดทะเบียนรายใหญ่ที่สุดในหลายแห่งของประเทศออสเตรเลีย โดย ณ สิ้นปี 2566 จะลงทุน 49.9% ใน JV ซึ่งจะซื้อโครงการอสังหา ฯ เพิ่มอีก 12 โครงการ มูลค่ารวมราว 1.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี ดีลดังกล่าวนี้หน่วยงานราชการประเทศออสเตรเลียอยู่ระหว่างทบทวนมานานพอสมควรแล้ว ในขณะที่ SPALI หวังว่าจะได้ข้อสรุปก่อนปลาย 3Q67 หรือต้น 4Q67 ในท้ายที่สุดแล้ว SPALI จะมี 24 โครงการรวมใน 4 รัฐและอีก 6 เมืองหลักในประเทศออสเตรเลีย ดังนั้น เราคาดส่วนแบ่งกำไรจาก JV ต่าง ๆ น่าจะเพิ่มเป็นสองเท่า YoY ได้เกินกว่า 500 ล้านบาทในปีหน้า
คาดกำไร 3Q67F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
ในกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหา ฯ ที่เราศึกษาอยู่ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นกำไร 3Q67 ของ SPALI เติบโต
ทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากการเปิดโครงการใหม่ ๆ มูลค่ารวมราว 1.5 หมื่นล้านบาท, โครงการคอนโดฯ ใหม่สร้างเสร็จที่ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ (ขายได้แล้ว 96%) มูลค่า 1.1 พันล้านบาทและยอดโอนจากโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร เนื่องด้วยกำไร 1H67 ที่ 2.2 พันล้านบาท (-20% YoY) คิดเป็น 44% จากประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา จึงชี้เป็นนัยว่ากำไร 2H67 จะแข็งแกร่งขึ้นกว่า 1H67 ดังนั้น เราคงประมาณการกำไรปี 2567F ไว้ที่ 5 พันล้านบาท (-16% YoY)
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568F ขึ้น
เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2568Fของเราขึ้น 11% หลัก ๆ จาก i) รายได้โตดีขึ้นจากสภาวะอุตสาหกรรมที่น่าจะดีขึ้น และ ii) รับส่วนแบ่งกำไรมากขึ้นหลังจากการเข้าซื้อ JV เพิ่มอีก 12 โครงการในปลายปี 2567 ดังนั้น กำไรปี 2568F อาจเพิ่มขึ้น 5% YoY เป็น 5.3 พันล้านบาท เราตั้งขอสังเกตุว่ายอดขายรอโอน (backlog) ที่ 1.65 หมื่นลบ. โดย 2.2 พันลบ. (14% จาก backlog รวม) จะถูกรับรู้เป็นรายได้ปีหน้ากรณีนี้เป็นนัยว่าเป็นเพียง 8.5% ของรายได้จากการขายบ้านที่มีหลักประกันแล้ว ฉะนั้น SPALI จำเป็นต้องเร่งขายและโอนบ้านคงค้างสร้างเสร็จที่มีอยู่ออกไฟเพื่อดันรายได้ปีหน้าขึ้น
Valuation & Action
เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของเราขึ้นเป็น 17.30 บาท (จากเดิม 15.00 บาท) เพราะเราตั้งสมมติฐาน PE
สูงขึ้นที่ 6.5x ณ -0.5 S.D และขยับ valuationไปเป็นกลางปี 2568 ทั้งนี้ เราปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ถือ”
จากขาย
Risks
ภาวะเศรษฐกิจ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้นท่ามกลางการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวมทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ