กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เข้าสู่ช่วงพักสร้างฐาน หลังตลาดหุ้นแรลลี่ในช่วงที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เข้าสู่ช่วงพักสร้างฐาน หลังตลาดหุ้นแรลลี่ในช่วงที่ผ่านมา

คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ เพราะราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกส่วนใหญ่ไปแล้ว ในสัปดาห์ที่แล้ว (16-20 กันยายน) ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่ออีกเล็กน้อย ซึ่งดีกว่าที่เราคาดเอาไว้ เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ข้อแรก ถึงแม้ว่าหุ้นการบริโภคส่วนใหญ่จะพักตัว หลังจากที่วิ่งขึ้นมาเพราะข่าวดีเรื่องมาตรการแจกเงินของรัฐบาล แต่ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลักกลุ่มอื่นอีกสองสามกลุ่ม อย่างเช่น พลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะลงแบบ soft landing

ข้อที่สอง กระแสเงินทุนในหุ้นจากต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง จากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ Fed ลดดอกเบี้ย 50bps และ ส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยลงอีกในช่วงสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ ผู้ว่าการ ธปท. ยังให้ข่าวว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยตามสหรัฐ เพราะให้น้ำหนักกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศของไทยมีมากกว่า

สำหรับในสัปดาห์นี้ (23-27 กันยายน) เราคาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ โดยมองว่าโมเมนตัมขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยน่าจะชะลอลงเนื่องจาก

ประการแรก ปัจจัยบวกที่เรามองไว้ในเดือนกันยายน ซึ่งได้แก่ มาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล, การออกกองทุนวายุภักษ์ และ การลดดอกเบี้ยสหรัฐ มีการประกาศออกมาหมดแล้ว และ ดัชนี SET ในปัจจุบันก็เคลื่อนไหวอยู่ใกล้กับเป้าปี 2567 ของเราที่ 1,460 แล้ว

ประการที่สอง หลังจากที่ตลาดวิ่งขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา เราพบว่าหุ้น laggard ที่ชัดเจนที่สุดในตอนนี้คือกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม เรามองว่านักลงทุนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นกับการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ เพราะแนวโน้มตลาดน้ำมันยังคงเปราะบาง

 

 

 

ติดตามอัตราดอกเบี้ย MLF ของจีน, core PCE ของสหรัฐ และ กระแสข่าวเกี่ยวกับกองทุนวายุภักษ์ และ นโยบายเศรษฐกิจอื่น ๆ

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ผลการประชุมตัดสินอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (MLF) ของจีน
ในวันที่ 25 กันยายน ii) ตัวเลข core PCE เดือนสิงหาคมของสหรัฐ ซึ่งจะช่วยยืนยันว่า Fed ยังมีช่องให้
ลดดอกเบี้ยเพิ่มได้อีกหรือไม่ โดย Consensus คาดว่า core PCE จะอยู่ที่ 2.6% YoY เท่ากับตัวเลขใน
เดือนกรกฎาคม

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ตัวเลขการส่งออกนำเข้าเดือนสิงหาคม (ยังไม่มีกำหนดการ
ประกาศที่แน่นอน) ii) รายงายข่าวเรื่องการจองซื้อกองทุนวายุภักษ์ และ iii) ความคืบหน้าของนโยบาย
เศรษฐกิจไทย อย่างเช่น มาตรการกระตุ้นการบริโภคเฟสที่ 2 และ การปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ

เน้นธีมการลงทุนหลัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์

ในขณะที่เราคาดว่าตลาดจะพักตัว แต่เรายังคงชอบธีมการลงทุนหลักในหุ้นกลุ่มการบริโภคของไทย, หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย และ หุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาท เราแนะนำให้นักลงทุนเน้นหุ้นที่ยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายอีก อย่างเช่น CPALL*, CBG*, SAWAD*, AAV* และ GPSC* เรามองทิศทางตลาดสัปดาห์นี้ในเชิงกลาง ๆ และมองว่า upside จะมาจากกระแสทุนไหลเข้าที่อาจจะแข็งแกร่งเกินความคาดหมาย