เดลต้าแอร์ไลน์ ไนกี้ ดิสนีย์ ติดโผบริษัทที่พนักงานมีความสุขที่สุดปี 2024

เดลต้าแอร์ไลน์ ไนกี้ ดิสนีย์ ติดโผบริษัทที่พนักงานมีความสุขที่สุดปี 2024

อยากทำงานที่นี่? เปิดโผบริษัทที่พนักงานมีความสุขมากที่สุดในปี 2024 ตามผลวิจัยของ Indeed และ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ยกตัวอย่างเช่น เดลต้าแอร์ไลน์, ไนกี้, ดิสนีย์(สวนสนุก), ไอบีเอ็ม ซึ่งติดอันดับ Top 10 จากทั้งหมด 100 อันดับ

KEY

POINTS

  • H&R Block บริษัทด้านการจัดการภาษี ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่พนักงานมีความสุขมากที่สุด อันดับถัดๆ มาได้แก่ เดลต้าแอร์ไลน์, ไนกี้, ดิสนีย์(สวนสนุก), ไอบีเอ็ม ซึ่งติดอันดับ Top 10 จากทั้งหมด 100 อันดับ
  • บริษัทที่ได้คะแนนสูงในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และพนักงานมีความสุขในการทำงาน พบว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่เติบโตมูลค่าสูง มีผลตอบแทนจากสินทรัพย์และผลกำไรที่สูงขึ้นด้วย
  • รูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้หางานส่วนใหญ่ในยุคนี้ได้ เพราะพวกเขารู้สึกว่าอยากได้รับการดูแลที่ดี และเต็มใจที่จะทำงานให้บริษัทที่ใส่ใจความรู้สึกของพวกเขาจริงๆ

ไม่นานมานี้สำนักข่าว CNBC รายงานถึงผลการศึกษาชิ้นใหม่ล่าสุด “2024 Work Wellbeing 100” จาก Indeed ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานชื่อดัง ร่วมกับ Wellbeing Research Centre ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งทำการสำรวจว่าบริษัทใดในสหรัฐอเมริกาที่พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขมากที่สุดในปี 2024 

ผลการจัดอันดับพบว่า H&R Block ซึ่งเป็นบริษัทด้านการจัดการภาษีสัญชาติอเมริกันที่ดำเนินกิจการในแคนาดา สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงานสูง ความเครียดต่ำ ทำให้ลูกจ้างทำงานอย่างมีความสุขมากที่สุดในปี 2024

ทั้งนี้ H&R Block เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงในด้านสถานที่ทำงานแบบผสมผสาน โดยพนักงานในองค์กร 42% สามารถทำงานจากระยะไกลได้แบบเต็มเวลา ขณะที่สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์, ไนกี้, ดิสนีย์(สวนสนุก), ไอบีเอ็ม ก็ติดอันดับ Top 10 บริษัทที่ลูกจ้างมีความสุขที่สุด จากทั้งหมด 100 อันดับ

ทีมวิจัยได้เก็บข้อมูลจากความเห็นของพนักงานกลุ่มตัวอย่างในบริษัทต่างๆ ผ่านชุดแบบสอบถาม ซึ่งให้พนักงานเขียนรีวิวเกี่ยวกับนายจ้างบริษัทของตนพร้อมให้คะแนนในหมวดหมู่ต่างๆ ในการทำงาน จากนั้นทีมวิจัยได้รวบรวมคะแนนแล้วจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาออกมาได้ 100 อันดับแรก ซึ่งคัดเฉพาะบริษัทที่พนักงานรายงานว่า พวกเขามีความสุขในการทำงาน มีจุดมุ่งหมายในอาชีพการงาน มีความพึงพอใจ และมีความเครียดต่ำ โดยใน 100 บริษัทเหล่านี้พบว่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมค้าปลีกและอุตสาหกรรมขนส่ง

เปิดโผ บริษัทที่พนักงานมีความสุขที่สุด 20 อันดับแรก

ในที่นี้ ขอหยิบยกบริษัทที่พนักงานมีความสุขที่สุด 20 อันดับแรก ตามรายงานการจัดอันดับข้างต้น ได้แก่

อันดับ 1 เอชแอนด์อาร์ บล็อค (H&R Block)
อันดับ 2 สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ (Delta Air Lines)
อันดับ 3 L3แฮร์ริส (L3Harris)
อันดับ 4 เอคเซนเชอร์ (Accenture)
อันดับ 5 ไนกี้ (Nike)
อันดับ 6 ช่างฝีมือนานาชาติ (Tradesmen International)
อันดับ 7 ดิสนีย์สวนสนุก (Disney Parks, Experiences and Products)
อันดับ 8 แอดดัส โฮมแคร์ (Addus HomeCare)
อันดับ 9 ไอบีเอ็ม (IBM)
อันดับ 10 แอมะซอน เฟล็กซ์ (Amazon Flex) 
อันดับ 11 แอปเปิล (Apple) 
อันดับ 12 บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ (The Walt Disney Company) 
อันดับ 13 วิโปร (Wipro) 
อันดับ 14 แม็กซิมัส (Maximus) 
อันดับ 15 แวนส์ (Vans)
อันดับ 16 ค็อกนิแซนท์ เทคโนโลยี โซลูชันส์ (Cognizant Technology Solutions)
อันดับ 17 กูเกิล (Google) 
อันดับ 18 ดัตช์บรอสคอฟฟี (Dutch Bros Coffee) 
อันดับ 19 ไมโครซอฟท์ (Microsoft) 
อันดับ 20 ขนส่งเฟดเอ็กซ์ (FedEx Freight)
 

บริษัทที่ให้ทางเลือกวิธีการทำงาน มักจะมีชื่อเสียงที่ดีในสายตาผู้สมัครงาน

นอกจากนี้ Indeed ยังได้วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่า บริษัทที่ได้คะแนนสูงในด้านความเป็นอยู่ที่ดีในการทำงานนั้น ส่งผลให้บริษัทเติบโตด้วยมูลค่าสูง มีผลตอบแทนจากสินทรัพย์และผลกำไรที่สูงขึ้นด้วย เมื่อดูข้อมูลในภาพรวมแล้วทำให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในผลการจัดอันดับชุดนี้ มีประสิทธิผลของงานดีกว่าบริษัทที่อยู่ในดัชนีตลาดหุ้น เช่น S&P 500 และ Nasdaq Composite ด้วยซ้ำ ทั้งนี้

ไคล์ เอ็มเค (Kyle M.K.) ที่ปรึกษาฝ่ายกลยุทธ์บุคลากรของ Indeed กล่าวว่า บริษัทหลายแห่งมักให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงาน (เลือกสถานที่ วิธีทำงาน และเวลาทำงานได้) บริษัทบางแห่งให้วันหยุดเพิ่มด้วย โดยวันหยุดที่เพิ่มขึ้นทำให้พนักงานสามารถเลือกไปพบแพทย์หรือไปดูเกมฟุตบอล หรือทำงานจากที่บ้านก็ได้หากสะดวกกว่า

“บริษัทที่ให้ทางเลือกวิธีการทำงานที่หลากหลาย คือบริษัทที่มักจะมีชื่อเสียงที่ดีกว่าในสายตาของพนักงานหรือผู้หางาน” ที่ปรึกษาฝ่ายกลยุทธ์บุคลากร กล่าวย้ำ

ข้อมูลในรายงานของ Indeed ยังระบุอีกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทใหญ่ๆ บางแห่งเริ่มหันมาใช้นโยบายบังคับให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศสัปดาห์ละ 5 วัน เหมือนกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่โควิด แต่กลับมีหลายๆ บริษัทที่หลีกเลี่ยงข้อกำหนดที่เข้มงวดเหล่านั้น ซึ่งส่งผลให้บริษัทกลุ่มนี้กำลังได้รับความนิยมจากผู้สมัครงานมากขึ้นเรื่อยๆ

ความยืดหยุ่นในการทำงาน ทำให้พนักงานมีความสุข และเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจเติบโต

สาเหตุที่ทำให้รูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่น สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของผู้หางานส่วนใหญ่ในยุคนี้ได้ เพราะพวกเขารู้สึกว่าอยากได้รับการดูแลที่ดี และต้องการทำงานให้กับบริษัทที่ใส่ใจความรู้สึกของพวกเขาจริงๆ ซึ่งจากลิสต์รายชื่อองค์กรต่างๆ ใน “2024 Work Wellbeing 100” จะช่วยให้ผู้หางานที่ชอบทำงานแบบยืดหยุ่น สามารถมองหางานที่ตรงใจพวกเขาได้มากขึ้น 

ด้าน ลาฟอน เดวิส (LaFawn Davis) หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและความยั่งยืนของ Indeed กล่าวในแถลงการณ์ว่า แม้ว่าความเป็นอยู่ที่ดีในการทำงานจะเผชิญกับความท้าทายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทต่างๆ ก็ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานสามารถเติบโตได้อย่างแท้จริง 

“การให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีในการทำงาน จะทำให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างพนักงานที่มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และมีความสุขมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจเติบโต” เดวิสกล่าว

ท้ายที่สุด ไคล์ เอ็มเค สนับสนุนให้ผู้สมัครงานทบทวนให้แน่ใจว่าวิธีการทำงานรูปแบบใดที่เหมาะกับตนเอง ก่อนจะตัดสินใจเลือกทำงานที่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้หางานพบกับบริษัทที่มีวัฒนธรรมการทำงานสอดคล้องกับ “แรงจูงใจภายใน” ของตนเองและสามารถทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้ง เขาเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน และสมควรที่จะได้ทำงานกับบริษัทที่ดูแลพวกเขาได้อย่างดีที่สุด