เวสต์เทกซัส 71.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 75.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (25 ก.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุด
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
(+) ราคาน้ำมันดิบ ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ ธนาคารกลางจีน ประกาศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงเศรษฐกิจออกจากภาวะเงินฝืดและผลักดันให้กลับมาบรรลุเป้าหมายการเติบโต โดยมีการเสนอมาตรการต่างๆ ที่มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ รวมถึงการจัดสรรเงินทุนเพิ่มเติมและการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นความพยายามในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
(+) ตลาดจับตาพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ลูกที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่กำลังก่อตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก เบื้องต้นหลายบริษัทกำลังเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งต้องหยุดการผลิตบางส่วน
(+/-) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ สหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.4 จากระดับ 55.7 ในเดือน ส.ค. 67 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต สหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.0 เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับ ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลัง โรงกลั่น Cilacap ของบริษัท Pertamina ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 348,000 บาร์เรลต่อวัน ได้เลื่อนกำหนดการซ่อมบำรุงจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน ต.ค. 67 เป็นเดือน ม.ค. 68
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศซาอุดีอาระเบียปรับลดลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เกิดจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น 8.05% ในเดือน ก.ค. 67 และแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน