วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ดุลการค้าไทยเดือน ส.ค.
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1,471/1,478 จุด แนวรับ 1,451/1,442 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,274-1,696 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,489 จุด (EMA 50 เดือน)
ส่วนในระยะสั้น ดัชนีฯ วานนี้ กลับมาเกิดสัญญาณแรลลี่รอบใหม่ (ทำ Higher Low และ Higher High ที่สูงขึ้น) หลังจากเกิดสัญญาณย่อตัวตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา คาดเป็นโมเมนตัมบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
US: ผู้นำยูเครน Zelenskiy กล่าวในงานประชุม UN ที่นิวยอร์ก คาดเพิ่มความเสี่ยงต่อ Geopolitical Risk สูงขึ้น
US Government Shutdown: สภาผู้แทนสหรัฐฯ เตรียมพิจารณาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. คืนวันพุธ หลังจากงบประมาณปัจจุบันมูลค่า USD1.2Trn. สิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย. โดยอาจต้องมีการปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราว หากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวได้ทันเส้นตาย
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
TH: ดุลการค้าไทยเดือน ส.ค. โดย Consensus คาด +USD0.45bn. (Vs เดือน ก.ค. -USD1.37bn.) เป็นผลจากส่งออกเติบโต 6% YoY และนำเข้าเติบโต 6.5% YoY (Vs เดือน ก.ค. +15.2% YoY และ 13.1% YoY) ตามลำดับ ส่วนเดือน ธ.ค. Trading Economics คาดดุลการค้าปรับตัวสูงขึ้นเป็น +USD0.4bn.
KTX คาดส่งออกไทยเดือน ส.ค. มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าคาด (คาดโตต่อเนื่องตามส่งออกญี่ปุ่นและจีน) โดยการส่งออกของประเทศคู่ค้าสาคัญอย่างจีน และญี่ปุ่น (ผู้ผลิตขั้นกลาง) เดือน ส.ค. เร่งตัวขึ้น 8.7% YoY และ 5.6% YoY ตามลำดับ เป็นสัญญาณชี้นำการฟื้นตัวของส่งออกไทย (ประกาศวันที่ 25 ก.ย.) เนื่องด้วยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ด้วยค่าสหสัมพันธ์ 61% และ 66% ตามลำดับ สอดคล้องกับมุมมองของธปท. ว่าการส่งออกไทยมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวเร่งขึ้น จนกลายเป็น 1 ใน 4 ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญใน 2H24 ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวที่มีความต่อเนื่อง
ส่งออกไทยเดือน ส.ค. อาจได้อานิสงส์จากส่งออกจีนและญี่ปุ่นยังขยายตัวต่อเนื่องทั้ง 2 ประเทศ
US: New Home Sales เดือน ส.ค. โดย Consensus คาด -5.1% MoM เป็น 0.7 ล้านหน่วย (Vs เดือน ก.ค. +10.6% MoM เป็น 0.739 ล้านหน่วย) ส่วน Building Permits เดือน ส.ค. คาด +4.9% MoM เป็น 1.475 ล้าน (Vs เดือน ก.ค. -3.3% MoM เป็น 1.406 ล้าน)
กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ NER STGT TRUE
NER ปิด 5.40 บาท/แนวรับ 5.05 บาท แนวต้าน 6.00 บาท
กำไรปกติและกำไรสุทธิ 1H24 คิดเป็น 46% และ 44% ของประมาณการกำไรทั้งปี และคาดโมเมนตัมกำไร 2H24E จะแข็งแกร่ง HoH KTX คงกำไรปกติและกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 2.1 พันล้านบาท (+33% YoY, +36% YoY ตามลำดับ) และประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 5.78 บาท
STGT ปิด 12.00 บาท/แนวรับ 11.50 บาท แนวต้าน 12.90 บาท
จากการที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าถุงมือยางจากจีนเร็วขึ้น 1 ปี ทำให้บริษัทได้รับการติดต่อจากกลุ่มลูกค้าประเทศจีนเข้ามาจำนวนมาก เพื่อเจรจารับคำสั่งซื้อ (Order) ในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้มีการประเมินมูลค่า Order ที่จะเข้ามา แต่หากมี Order ใหม่ จะเริ่มเห็นตั้งแต่ 4Q24 เป็นต้นไป โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 300 ล้านบาท (+532.91% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 13.31 บาท
TRUE ปิด 11.10 บาท/แนวรับ 10.80 บาท แนวต้าน 12.00 บาท
กลุ่ม TRUE เป็น 1 ในกลุ่มที่คาดหมายว่าจะยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ที่ธปท. กำหนด นอกจากนี้ TRUE กำลังเร่งการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย โดยได้ดำเนินการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป และพัฒนาไปแล้วกว่า 7,100 สถานี จากทั้งหมด 17,000 สถานี โดย Bloomberg Consensus ประมาณการขาดทุนสุทธิ 3Q24 ที่ 633.33 ล้านบาท (ขาดทุนลดลงจาก 3Q23) และมูลค่าเหมาะสม 11.68 บาท