วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ OSP ประมาณการ 3Q67F: คาดไตรมาสนี้ชะลอตัว
คาดว่า OSP จะรายงานขาดทุนสุทธิที่ 217 ล้านบาท (-134% YoY และ -136% QoQ) ใน 3Q67F หลักๆ เกิดจากคาดมีผลขาดทุนของการด้อยค่าจากการขายโรงงานขวดแก้วในเมียนมาร์มูลค่า 800 ล้านบาท
หากไม่รวมรายการนี้ คาดกำไรปกติยังไม่สดใสอยู่ที่ 583 ล้านบาท สะท้อนการเติบโตเล็กน้อย 4% YoY แต่ลดลง 37% QoQ การที่กำไรเติบโต YoY เล็กน้อยเพราะมี GPM สูงขึ้นอยู่ที่ 35.7% ส่วนใหญ่มาจากสัดส่วนยอดขายเครื่องดื่มในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งหนุนให้อัตรากำไรสูงขึ้นด้วยแรงหนุนจากยอดขายในเมียนมาร์เติบโตเด่น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายภาษีน่าจะลดลงจากสัดส่วนยอดขายที่มากขึ้นจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทย ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ (BOI)
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรหลักจะลดลง QoQ อย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นช่วง low season ในประเทศ
เมียนมาร์ ส่วนยอดขายเครื่องดื่มในประเทศไทยก็ลดลงเพราะอุปสงค์ลดลงจากภาวะน้ำท่วม ขณะที่ ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศของ OSP ลดลงอยู่ที่ 45.4% จาก 46.4% ใน 2Q67 แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของ functional drink เพิ่มขึ้นแต่การเติบโตโดยรวมของสินค้ากลุ่มนี้ดูเหมือนจะชะลอ ดังนั้น เราคาดว่ายอดขายเครื่องดื่มรวมและรายได้รวมของ OSP จะลดลง 19% และ 15% QoQ ตามลำดับ โดยที่ การลดลงของยอดขายยังส่งผลให้ GPM ลดลงและสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายสูงขึ้น QoQ อีกด้วย
กำไรน่าจะดีขึ้นใน 4Q67F จากปัจจัยฤดูกาล
เราคาดว่ารายได้จากยอดขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 4Q67F หนุนจากปัจจัยฤดูกาลในเมียนมาร์
นอกจากนี้อุปสงค์การบริโภคภายในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งช่วยกระตุ้นกำไรของ OSP ให้เติบโต ทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q67F
Valuation & action
เรายังกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของ OSP เพราะบริษัทเผชิญกับความท้าทายในการดึงส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศให้กลับคืนมา นอกจากนี้ คาดว่ามีความเป็นไปได้ยากที่ตลาดพม่าจะรักษาอัตราการเติบโตในระดับสูงในปีหน้า หลังจากเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567F เนื่องจากความได้เปรียบจากการดำเนินงานในเมียนมาร์ ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำเพียงถือ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 25.25 บาท อิงจาก PER ที่ 23x (-1.5 S.D.)
Risks
การแข่งขันในตลาดและเศรษฐกิจชะลอตัวลง