Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว พรุ่งนี้ติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน - กลยุทธ์ระยะสั้น Open Long 935, Take Profit 940/945, Stop Loss 930
แนวโน้มระยะกลาง
ระยะกลางคาด S50Z24 แกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้นหลังจากกลับมายืนได้เหนือ 30 ประเมินแนวรับ
930/922/913*/905 และแนวต้าน 945/955/967 หากยืนได้เหนือ 930 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้านที่ 945/955 หากยืนไม่ได้เหนือ 930 อาจแกว่งตัวลงไปแนวรับ 922/913
กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)
แนะนำเปิด Long สัญญา S50Z24 ที่ 930 และปิดสถานะที่แนวต้าน 945/955 โดยให้จุด Stop loss ที่ 925
แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)
วานนี้ S50Z24 เคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น โดยเด้งฟื้นขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ 942.0 สลับแกว่งตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 935.3 และมาปิดที่ 938.8 โดย S50Z24 ขึ้นแรงกว่าดัชนีส่งผลให้ Basis ระหว่าง S50Z24 และ SET50 สู่ +1.65 จุด
ประเมินสัญญา S50Z24 อาจแกว่งตัว หากยืนได้เหนือ 935 อาจสลับเด้งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 940/945
กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**
แนะนำเปิด Long สัญญา S50Z24 ที่แนวรับ 935 และปิดสถานะที่แนวต้าน 940/945 โดยให้จุด Stop loss ที่ 930
ปัจจัยสำคัญ
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50
วานนี้ดาวโจนส์ปิดลบ 257 จุด (-0.6%) ปิดที่ 41,794 จุด นอกจากนี้นักลงทุนรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ผลโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีหลายสำนักชี้ว่าคะแนนนิยมของทั้งสองผู้สมัครระหว่างนายโดนัลล์ทรัมป์และคามาลา แฮร์ริส สูสีมาก ทั้งนี้ผู้ชนะจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง รวมทั้งในวันที่ 6-7 พ.ย.ติดตามผลการประชุมเฟด ทั้งนี้ตลาดคาดเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI เดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์/บาร์เรล (+2.85%) มาอยู่ที่ 71.47 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากมติที่ประชุมโอเปคพลัสที่ชะลอการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนธ.ค. 180,000 บาร์เรล/วันออกไปอีก 1 เดือน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน
ด้านทิศทางค่าเงินดอลลาร์/บาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดมาอยู่ที่ 33.73 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น
ระยะสั้นติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลาง คืนนี้ติดตาม ISM รายงาน PMI ภาคบริการสหรัฐเดือนต.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด 53.7 นอกจากนี้นักลงทุนรอติดตามปัจจัยสำคัญ คือผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ (ทราบผลวันที่ 6 พ.ย.) และผลการประชุมเฟดในวันที่ 6-7 พ.ย.นี้