เวสต์เทกซัส 68.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 71.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

(+/-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ทรงตัว จากตลาดคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในจีนที่อาจปรับตัวดีขึ้น หลังข้อมูลผลสำรวจภาคเอกชนเผยกิจกรรมโรงงานขยายตัวในเดือน พ.ย. 67 เร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน สร้างความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่จะประชุมในเดือน ธ.ค. 67 นี้ โดยข้อมูลการจ้างงานในอนาคตจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางดังกล่าว ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวและส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง

(+) ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนที่มีผลตั้งแต่วันพุธเริ่มไม่แน่นอน หลังอิสราเอลโจมตีเป้าหมายทางตอนใต้ของเลบานอน และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธ 2 ลูกตอบโต้ ท่ามกลางข้อกล่าวหาละเมิดข้อตกลง ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงยังคงมีผล แม้จะยังคงมีสถานการณ์การใช้อาวุธเกิดขึ้น

(-) ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้า 100% ต่อกลุ่มประเทศ BRICS หากยังสนับสนุนการสร้างหรือใช้สกุลเงินอื่นแทนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบที่กำหนดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แพงขึ้น ลดความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนสกุลเงินอื่น

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ยังคงชะลอตัวจากปัญหาสภาพภูมิอากาศในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ การส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในเดือน ธ.ค. 67 ที่อาจลดลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 67 หลังจากผู้ส่งออกเร่งจัดส่งสินค้าเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก่อนนโยบายการคืนภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ธ.ค. 67

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง จากการที่โรงกลั่นฯ ในภูมิภาคกลับมาดำเนินการผลิต ภายหลังการหยุดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการขยายมาตรการลดภาษีน้ำมันในเกาหลีใต้ไปจนถึงช่วงเดือน ก.พ. 68 (จากเดิมที่จะสิ้นสุดช่วงเดือน ธ.ค. 67)