เวสต์เทกซัส 70.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 73.91 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลง หลังยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการบริโภคของจีนในเดือน พ.ย. 67 เติบโตเพียง 3.0% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 4.6% ทำให้จีนต้องเผชิญกับแรงกดดันในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนั้นแล้วตลาดยังมีความกังวลต่อผลกระทบการขึ้นภาษีการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค. 68

(-/+) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 48.3 ในเดือน ธ.ค. 67 จาก 49.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่า 50 แสดงถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สวนทางกับ ดัชนี PMI ภาคการบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 58.5 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 38 เดือน บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงขยายตัวได้ดี

(+) การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านไปยังจีน ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญของอิหร่าน เกิดความล่าช้าและหยุดชะงักหลายลำ หลังมาตรการการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ ส่งผลให้เรือที่ถูกคว่ำบาตรไม่สามารถเทียบท่าเรือในจีนได้มากนัก  เนื่องจากผู้ซื้อในจีนต้องการให้การส่งมอบน้ำมันดิบใช้เรือที่ไม่ถูกคว่ำบาตร

(+) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หนึ่งในสมาชิกของโอเปคพลัสมีแผนที่จะลดการส่งออกน้ำมันในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากโอเปคพลัสต้องการให้สมาชิกมีวินัยที่เข้มงวดขึ้นในการผลิตตามโควตา

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลัง สต็อกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ธ.ค. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 15.4 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นก่อนวันหยุดสิ้นปีและเทศกาลตรุษจีนในเดือน ม.ค. 68 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในโอมานปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินชั่วคราว ส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดีเซลหยุดชะงัก โดยตลาดคาดว่าจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ นอกจากนั้นแล้ว การซ่อมบำรุงโรงกลั่นขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปี 68 คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนหน้าทำให้กำลังการกลั่นอาจหายไปสูงถึง 250,000 บาร์เรลต่อวัน