ธุรกิจ ‘จีน’ หาทางรอด ก่อน ‘ทรัมป์’ รับตำแหน่ง เดินหน้าสงครามการค้า
![ธุรกิจ ‘จีน’ หาทางรอด ก่อน ‘ทรัมป์’ รับตำแหน่ง เดินหน้าสงครามการค้า](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/12/0iA44YQJJj0ZExecjsak.webp?x-image-process=style/LG)
ธุรกิจ ‘จีน’ หาทางรอด สร้างโรงงานนอกประเทศ หันทำการตลาดในประเทศและโฟกัสตลาดต่างประเทศ ตั้งรับนโยบาย ‘ภาษี’ ก่อนที่ ‘ทรัมป์’ จะเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค. 68
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ‘ธุรกิจจีน’ กำลังปรับตัวขยายการผลิตไปยังต่างประเทศและกระจายฐานลูกค้านอกสหรัฐ เพื่อเตรียมรับมือกับนโยบายภาษีศุลกากรที่อาจสูงถึง 200% ก่อนที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะกลับมามีบทบาทในทำเนียบขาวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ความกังวลของเหล่าบริษัทจีนเพิ่มขึ้น สะท้อนจากผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬากำลังสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเวียดนาม เพื่อหลีกเลี่ยง “ภาษี” ซึ่งเป็นมาตรการทางการค้าที่อาจมุ่งเป้าไปยังสินค้าที่ผลิตในจีน ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตหมวกก็วางแผนขยายตลาดการขายไปยังยุโรปมากขึ้น ส่วนบริษัทหล่อโลหะก็อาจกลับมาให้ความสนใจกับตลาดภายในประเทศจีนอีกครั้ง แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศจะชะลอตัวลงก็ตาม
บริษัทเหล็กโฟกัสในประเทศ
บริษัท ต้าหวาง เมทัลส์ โรงงานหล่อโลหะขนาดใหญ่ที่ส่งออกประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมด กำลังพิจารณาปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรับมือกับภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นจากสหรัฐ เมื่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศไม่เอื้ออำนวย จากเน้นการส่งออกบริษัทก็พร้อมที่จะหันกลับมาให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศจีน โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง
เฮเทอร์ กวง รองประธานของ Dawang Metals กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจากจีนอาจส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในสหรัฐฯ ที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากจีน เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิตโลหะหล่อรายใหญ่ของโลก การพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนนี้ ทำให้บริษัทในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
เจาะลูกค้า ‘ยุโรป’
การกลับมาของทรัมป์กำลังส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อจากบริษัทจีนแล้ว ซึ่ง Superb International ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับเสื้อผ้าในจีนตะวันออก เปิดเผยว่าลูกค้าสหรัฐสั่งซื้อสินค้าน้อยลง
ฮาวเวิร์ด หยวน ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจเผยว่า ลูกค้าบางรายที่เคยสั่งซื้อสินค้า 10,000 ถึง 20,000 ชิ้น ปัจจุบันได้ลดคำสั่งซื้อลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากโรงงานมีระยะเวลาเตรียมการผลิตหมวกประมาณสองเดือน ซึ่งหมายความว่าเมื่อสินค้าถึงท่าเรือในสหรัฐฯ ทรัมป์อาจจะเข้ารับตำแหน่งแล้ว บริษัทจึงหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ารายอื่น เช่น ยุโรป