วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี BEVERAGE SECTOR ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ
เราประเมินส่วนแบ่งการตลาดของ OSP ขยายตัว 0.3ppt mom เป็น 44.8% ในเดือนตุลาคม เนื่องจากยอดขายฟื้นตัวหลังน้ำท่วมลดลง ในทางตรงกันข้าม ส่วนแบ่งตลาดของ CBG ลดลง 0.7ppt mom เหลือ 25.1% ในเดือนตุลาคม
แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาด 26% ในเดือนธันวาคม เนื่องจากเข้าร่วมในแคมเปญ 2 ขวด 18 บาท ในร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 ถึงมกราคม 2025 CBG ยังตั้งเป้าที่จะได้รับส่วนแบ่งตลาด 3ppt ในปี 2025 เป็น 29% เรายังคงคาแนะนา ซื้อ สาหรับ CBG (TP THB89) และ OSP (TP THB23)
CBG จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มใน 4Q24
แม้ CBG จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในเดือนตุลาคม แต่ฝ่ายบริหารระบุว่ายอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะเติบโตได้ดีใน 4Q24 โดยประเมินยอดขายจะเพิ่มขึ้น 37% yoy เป็น 261 ล้านขวดใน 4Q24 เนื่องจากมีราคาขายต่ำสุด (10 บาท เทียบกับของแบรนด์อื่นในตลาดที่ 12 บาท) นอกจากนี้ เนื่องจาก 4Q24 เป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี ยอดขายในกัมพูชาน่าจะแข็งแกร่ง (ส่วนแบ่งรายได้ 15%) เมื่อดูต้นทุนราคาอลูมิเนียม (8% ของ COGS) น่าจะค่อนข้างทรงตัว qoq เนื่องจาก CBG ล็อคราคาไว้จนถึง 1Q25 เราประมาณการกำไร 4Q24 แบบระมัดระวังจะเพิ่มขึ้น 1% yoy เป็น 656 ล้านบาท
สำหรับ OSP ตลาดในเมียนมาร์ยังดีอยู่ใน 4Q24
OSP คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศต่อไปในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม นอกจากนี้ยอดขายน่าจะยังคงแข็งแกร่งในเมียนมาร์ (ส่วนแบ่งรายได้ 10%) เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น เราคาดกำไรหลัก 4Q24F จะเพิ่มขึ้น 30% เป็น 770 ล้านบาท
CBG เป็นหุ้นเด่น ความเสี่ยงหลังคือความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
CBG ซื้อขายที่ 25x 2025F P/E ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 37x สำหรับ OSP มี valuation ที่ไม่แพง P/E 19x ปี 2025F หรือ -1.5SD ของค่าเฉลี่ยระยะยาว OSP สมควร ที่จะเทรดที่ valuation ต่ำกว่า CBG เพราะคาดว่า OSP อาจเสียส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว เนื่องจากสินค้ามีราคาสูงกว่า แต่นักลงทุนอาจมองว่าหุ้นน่าสนใจหากคาดกำไรเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q24 ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ ราคาวัตถุดิบมีความผันผวน โดยเฉพาะโซดาแอชและอลูมิเนียม