วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

คาดว่ากำไร จะทรงตัว YoY ลดลง 20% QoQ ใน 4Q67F และ จะโต 3.6% ในปี 2567FF

เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงตามฤดูกาล และ มีการบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ในไตรมาส
สุดท้ายของปี เราจึงคาดว่ากำไรจะลดลงมากถึงประมาณ 20% QoQ โดยเฉพาะสามธนาคารใหญ่ ซึ่งได้แก่ BBL, KBANK และ KTB แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรน่าจะทรงตัว YoY ใน 4Q67 เราคาดว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้น QoQ จากอุปสงค์ตามฤดูกาลของสินเชื่อธุรกิจ, NIM จะลดลง และคชจ. (credit cost) จะทรงตัวในระดับสูง โดยคาดว่า KBANK และ KTB จะมีกำไร FVTPL สูงจากการลงทุนในตราสารหนี้

NIM ของหลายธนาคารลดลง

BBL และ TTB ส่งสัญญาณว่าต้นทุนเงินฝากเริ่มจะลดลงเพราะเงินฝากที่มีต้นทุนสูงทยอยครบกำหนด และ ถูกแทนที่ด้วยเงินฝากที่มีต้นทุนลดลง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากให้ลดลงได้ และ เกือบจะสามารถชดเชย yield ที่ถูกกดดันจากการลดดอกเบี้ยนโยบายได้ เราคาดว่า NIM ของ BBL และ TTB จะลดลงประมาณ 5bps QoQ ในขณะที่คาดว่า NIM ของ KKP จะลดลงอย่างมากเนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อ yield ต่ำเพิ่มขึ้น

สินเชื่อน่าจะโตต่ำกว่าเป้า ในขณะที่ credit cost น่าจะสูงกว่าเป้าหมายที่แบงก์คาดการณ์

ถึงแม้ว่าธนาคารส่วนใหญ่จะยังขยายสินเชื่อได้ QoQ ใน 4Q67 แต่แนวโน้มปี 2567 ยังซบเซา และ สินเชื่อน่าจะแทบไม่โตเลยเพราะธนาคารต่าง ๆ ใช้กลยุทธ์การปล่อยกู้แบบระมัดระวังมาตั้งแต่ 1H67 เราใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อใน 4Q67 จะขยายตัว 1-1.5% QoQ แต่คาดว่าสินเชื่อเต็มปีของ BBL จะทรงตัว, ของ SCB, KTB KBANK และ TTB จะลดลง 7%, ของ KKP จะลดลง 6% และ ของ TISCO จะลดลง 3%สะท้อนถึงสินเชื่อ H/P ที่ลดลงอย่างมากตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ตกฮวบ ซึ่งการเติบโตของสินเชื่อที่ระดับนี้ต่ำกว่าเป้าเต็มปีของธนาคารที่ 3-5% 

 

 

 

แต่ในอีกด้านหนึ่ง เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 4Q67F เพราะธนาคารต่าง ๆ ตั้งใจจะบริหารจัดการกำไร โดยเราคาดว่า KBANK, KTB, SCB, TTB และ TISCO จะเพิ่ม credit cost แต่ BBL จะคงไว้ที่ระดับสูง

เงินปันผลจะช่วยจำกัด downside

นอกจากแรงกดดันทางด้านของ NIM และ credit cost แล้ว เราคิดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะได้อานิสงส์จาก
การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงอย่างมาก ซึ่งจะช่วยหนุนกำไร FVTPL ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นราย
ธนาคาร เราพบว่าฐานเงินทุนของ KBANK, KTB และ SCB เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเดือนตุลาคม-
พฤศจิกายน ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถสร้างสมดุลของกำไรได้ดีขึ้น เราชอบ BBL มากกว่าเพื่อนเพราะ
credit cost ไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงจะเป็นธีมหลักของ SCB, TTB และ
TISCO ส่วนในกรณีของ KBANK และ BBL อาจจะจ่ายปันผลมากกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้

Risks

NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แม้ว่ากำไรดูชะลอตัว แต่มีเงินปันผลปันผลเป็นช่วย