วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จ้างงานสหรัฐกดตลาด

นอกจากนี้นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลข การจ้างงานของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,367.99 จุด +5.02 จุด +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 42,718.70 ลบ. (สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -16.77 จุด -1.21%) Program Trading -789.35 ลบ. ต่างชาติ -1,103.62 ลบ. TFEX -3,123 สัญญา ตราสารหนี้ +459.95 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.65 ดอลลาร์ หรือ +3.58% ปิดที่ 76.57 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า อุปทานน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย
+ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผย ว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียต้องการเข้าพบและกำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมสำหรับการพบกัน
+ จีนรายงานว่าธุรกิจเอสเอ็มอีของจีนมีประสิทธิทางธุรกิจที่ดีขี้นใน ช่วง 4Q67
+รมช.คลัง เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องทำในปี 68 คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งการกระตุ้นการลงทุน การบริโภค เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวได้ 3%

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 696.75 จุด หรือ -1.63% หลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้นักลงทุนมีความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้
- สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 154,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.

 

- แคนาดากำลังพิจารณาตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ รวมถึงน้ำส้ม สุขภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เหล็กบางชนิด หากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินการตามที่ข่มขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าทั้งหมดจากแคนาดาในอัตรา 25%
- สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ชี้ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 โหมดอันตรายซ้ำเติมความเชื่อมั่นปลอดภัยฉุดการท่องเที่ยว รัฐเร่งแก้ไข-หาทางป้องกัน
- IMF เตือนว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะเผชิญกับความไม่แน่นอน มากขึ้นเนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจโดยเฉพาะทิศทางของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรแข็งแกร่งเกินคาดทำให้นักลงทุนมีความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีที่ 1,360-1,375 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

HMPRO "ซื้อ"  (Bloomberg Consensus 12.00       Upside 33%)
"มุมมองบวกต่อกำไร 4Q67 และ 1Q68 คาดมีแนวโน้เติบโตต่อเนื่อง"

+คาดผลประกอบการ 4Q67 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยมีปัจจัยหนุน จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ทำให้มีการเร่งซ่อมแซมบ้าน สะท้อน SSSG มีโอกาส พลิกเป็นบวกเล็กน้อย (จากเดิมคาดติดลบ 3-4%) รวมทั้งเข้าสู่ High Season ของธุรกิจที่เป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี รวมทั้งมาตรการภาครัฐช่วยหนุน อาทิ "ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง" โดย Bloomberg Consensus คาดกำไร 4Q67 ราว 1,749 ลบ. +4%YoY +21%QoQ ฟื้นตัวดีขึ้นหลังจาก 3Q67 มีกำไร 1,442 ลบ. -6%YoY -11%QoQ (ต่ำกว่าตลาดคาด 5%) และ 9M67 มีกำไร 4,777 ลบ. ทรงตัว YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อกำไร 4Q67 และ 1Q68 คาดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการ Easy E-receipt ระยะเวลา 16 ม.ค.-28 ก.พ.68 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67-68 ราว 6,607 ลบ. +3%YoY (9M67 คิดเป็น 72%) และ 7,113 ลบ. +8%YoY ตามลำดับ ส่วนราคาเหมาะสม 12.00 บาท มี Upside 33% แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) DITTO (Bloomberg Consensus - บาท) ขานรับนโยบายรัฐวิสาหกิจ ลุยเทคโนโลยี - AI เดินหน้ารุกพร้อมพันธมิตร ชี้จัดการดาต้า พร้อมโซลูชันครบครัน ชูผลงาน กนอ.-องค์การสวนสัตว์ รับงาน Easy E-Receipt เพียบ เดินหน้าต่อยอดงาน ทั้ง E-TAX และโซลูชันอื่นๆ มั่นใจปีนี้งานภาครัฐออกมาเพียบ เหตุต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SIS (Bloomberg Consensus - บาท) ได้รับอานิสงส์มาตรการรัฐบาลในระยะสั้น จากเงินดิจิทัล 10,000 บาท และ Easy E-Receipt ปักธงกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ปี 2568 เติบโต 10-20% ลุยธุรกิจคลาวด์ ปั้นรายได้ 1,500-2,000 ล้านบาท เตรียมขยายการลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดเห็นความชัดเจนกลางปี 2568 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BBIK (Bloomberg Consensus 50.00 บาท) รับเต็มแบงก์ประกาศลงทุนหนัก ทุ่มงบ 10% ของกำไร พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งสัญญาณบวกตลาดดิจิทัลทรานส์ ฟอร์เมชั่น หนุนความต้องการใช้คลาวด์เพิ่มขึ้น พร้อมรุกฐานภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจเต็มสูบ หวังอัพสัดส่วนเป็น 10% จากเดิมน้อยกว่า 5% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EKH (Bloomberg Consensus 8.13 บาท) มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 7% จากจำนวนผู้ใช้บริการที่รพ.เอกชัยสมุทรสาครเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยใน-นอก รวมถึงศูนย์ IVF ดีต่อเนื่อง พร้อมมองหาโอกาสลงทุนธุรกิจสุขภาพอื่นๆ หนุนรายได้โตมั่นคง ด้านบอร์ดไฟเขียว ทุ่มงบซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 400 ล้านบาท เริ่ม 13 ม.ค.นี้ เหตุมองราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน ยันฐานะการเงินแกร่ง (ที่มา ข่าวหุ้น)