วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี Healthcare and Fertility service ความไม่ปลอดภัยของชาวจีน มองเป็น Sentiment ลบ
ข่าวความไม่ปลอดภัยของชาวจีน มองเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่ม รพ. และกลุ่มให้บริการ IVF เนื่องจากลูกค้าจีนที่เข้ามารักษากับ รพ. หรือคลีนิก IVF ในไทย จะเป็นกลุ่มเจาะจงที่ติดต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการ
นอกจากนี้รูปแบบบริการ IVF ในไทยส่วนใหญ่จะมี Agency ดูแลรับ-ส่งลูกค้าในช่วงเข้ามารับบริการ ต่างกับนักท่องเที่ยวทั่วไป จึงคาดว่าจะไม่กระทบประมาณการกำไรของกลุ่มฯ คงคำแนะนำ Bullish สำหรับกลุ่ม รพ. (หุ้นเด่น BDMS) และกลุ่มผู้ให้บริการ IVF (หุ้นเด่น SAFE)
ประเด็นข่าว
- ข่าวนักแสดงชาวจีนถูกลักพาตัวและเหตุการณ์จีนปล้นจีนที่เขตห้วยขวาง ทำให้เกิดกระแสความไม่ปลอดภัยในไทย และมีคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมาไทยของชาวจีน
- สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวคาดว่า นักท่องเที่ยวจีนอาจลดลง 10-20% ช่วงเทศกาลตรุษจีนปลายเดือนนี้ เนื่องจากไม่มั่นใจความปลอดภัย และอาจทำให้การคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนทั้งปี 2025 ไม่ถึงเป้าหมาย 8 ล้านคน
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามองว่าข่าวดังกล่าวอาจทำให้มีความกังวลต่อการใช้บริการของ รพ. หรือคลีนิกให้บริการภาวะผู้มีบุตรยาก (IVF) ในกลุ่มลูกค้าชาวจีนจะชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นผลกระทบเชิง Sentiment เนื่องจากลูกค้าจีนที่เข้ามารักษากับ รพ. รวมถึงที่เข้ามารักษาภาวะมีบุตรยากกับคลีนิก IVF ในไทย จะเป็นกลุ่มเจาะจงที่ติดต่อโดยตรงกับ รพ. หรือคลีนิก IVF ประกอบกับกลุ่มผู้ให้บริการ IVF ในไทยส่วนใหญ่จะมี Agency ดูแลรับ-ส่งลูกค้าในช่วงที่เข้ามารับบริการในไทย ซึ่งต่างกับนักท่องเที่ยวทั่วไป
- เราสอบถามความเห็นผู้บริหารบริษัทให้บริการ IVF (SAFE, GFC, EKH) และกลุ่ม รพ.ที่ศึกษา มีมุมมองสอดคล้องกันต่อประเด็นนี้ไม่น่ากระทบการใช้บริการของลูกค้าชาวจีน นอกจากนี้ลูกค้าชาวจีนของ รพ. จะมีทั้งกลุ่ม Fly in และ Expat ประกอบกับการใช้บริการมีทั้งการรักษาโรคซับซ้อนและบริการ Wellness
- กลุ่มผู้ให้บริการ IVF ที่ศึกษามีสัดส่วนรายได้ลูกค้าชาวจีนเรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ EKH (สัดส่วน 11% ของรายได้ให้บริการ), SAFE (สัดส่วนน้อยกว่า 10% ของรายได้ให้บริการ) ส่วน GFC มีสัดส่วนรายได้เกือบ 100% เป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทย และเริ่มขยายตลาดต่างชาติในปีนี้
- กลุ่ม รพ.ที่ศึกษามีสัดส่วนรายได้ลูกค้าจีนเรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ BH (สัดส่วน 3%ของรายได้รักษาพยาบาล), BDMS (สัดส่วน 2% ของรายได้รักษาพยาบาล), BCH (สัดส่วนรายได้ 1% ของรายได้รักษาพยาบาล)
- คงน้ำหนักลงทุน Bullish สำหรับกลุ่มฯ เนื่องจาก 1) โครงสร้างประชากรไทยที่มีอัตราเกิดน้อย ขณะที่ผู้สูงอายุมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตระยะยาว 2) คาดประเด็นประกันแบบ Copayment จะมีผลกระทบจำกัดต่อกลุ่ม รพ. และ 3) การเพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาของภาครัฐ (ตรวจคัดกรองโรค, มะเร็งรักษาทุกที่) จะช่วยเพิ่ม Intensity ค่ารักษาโรคซับซ้อน
- คาดปี 25F กำไรปกติรวมของรพ.ที่ศึกษา 5 บริษัทเติบโต (+11%y-y) ต่อเนื่องจากปี 24F (คาดเติบโต +7%y-y) ส่วนกลุ่มผู้ให้บริการ IVF ที่ศึกษา 2 บริษัทคาดกำไรปกติรวม (+14%y-y) กลับมาเติบโตดีขึ้นจากปี 24F (คาดกำไรรวมลดลง -7%y-y)
- พิจารณาเชิง Valuation จากราคาปัจจุบันหุ้น รพ.ที่ศึกษาซื้อขาย PE ปี 25 เฉลี่ย 25 เท่า เทียบเท่า Forward PE ต่ำ กว่า -1.0SD และราคาปัจจุบันของ SAFE และ GFC ซื้อขาย PE ปี 25F เฉลี่ย 17 เท่าเทียบเท่า Forward PE -2.0SD หุ้นเด่นกลุ่ม รพ. เลือก BDMS (TP 37.50),หุ้นเด่นกลุ่ม Fertility service เลือก SAFE (TP 16.30)