วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ทรัมป์รับตำแหน่ง

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยนักลงทุนจับตาการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดราว 9 จุด มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนี
อย่างไรก็ตาม Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,340.50 จุด -0.13 จุด -0.01% มูลค่าการซื้อขาย 25,982.06 ลบ. Program Trading +278.75 ลบ. ต่างชาติ +445.88 ลบ. TFEX +3,551 สัญญา ตราสารหนี้ +139.94 ลบ.
ปัจจัยบวก
+/- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก น้ำมัน และทองคำปิดทำการวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
+ โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 แล้ว ยังไม่กำหนดเก็บภาษีนำเข้ากับจีนในทันทีตามที่เคยขู่ไว้ แต่ได้สั่งการ ให้ตรวจสอบและแก้ไขการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรมและการปั่นค่าเงินของประเทศต่าง ๆ
+ ประธานาธิบดีทรัมป์ เตรียมลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐ
+ ผลสำรวจของสภาวิเทศสัมพันธ์แห่งยุโรป (ECFR) พบว่า ประชาชนในหลายประเทศทั่วโลกพึงพอใจต่อการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นสมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมองว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสหรัฐและดีสำหรับทั่วโลก
+ สหภาพยุโรป (EU) เลื่อนบังคับใช้มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าออกไป 12 เดือน ส่งผลให้บริษัทรายใหญ่มีเวลาเตรียมพร้อมก่อนวันที่ 30 ธ.ค.68 และ SME มีเวลาเตรียมพร้อมก่อนวันที่ 30 มิ.ย.69
+ หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยส่งงบปี 67 ส่วนใหญ่ใกล้เคียงตามคาดการณ์และเติบโตจากปีก่อนหน้า จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง
ปัจจัยลบ
- ททท.ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนตลอดทั้งปี 2568 ที่ 8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 6.73 ล้านคน คาดผลกระทบ "ซิงซิง" ทำนักท่องเที่ยวจีนหาย 10,000 คนช่วงตรุษจีน ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์จากเมืองรอง ททท.ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้เลิกมาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสนอให้ลดวันพักลงจากเดิม 60 วันเหลือ 10-15 วันให้สอดคล้องกับวันพักของนักท่องเที่ยวจีนที่มีพฤติกรรม พักประมาณ 7-10 วัน
- ข้อตกลงหยุดยิงที่เพิ่งมีผลบังคับใช้วานนี้ส่อล่ม! กองทัพอิสราเอล เตรียมตัวโจมตีครั้งใหม่
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหว Sideway up โดยได้แรงหนุนตามดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวขึ้นหลัง ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และ Fund Flow ที่เริ่มไหลกลับเข้าประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ อีกทั้ง นักลงทุนคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,330-1,350 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD
หุ้นรายงานพิเศษ
JUBILE (ถือ ราคาเหมาะสม 12.10 บาท)
"คาดกำไร 4Q67 +14%QoQ แต่ -3%YoY"
•เราคาดการณ์รายได้ 4Q67 ราว 370-390 ลบ. -3%YoY แต่+14%QoQ เนื่องจากสถานการณ์ น้ำท่วมใน 3Q67 คลี่คลาย และมีการจัดงานใหญ่ 2 งานในวันที่ 23-24 พ.ย. 67 และ วันที่ 20-22 ธ.ค. 67 ตามลำดับเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงจาก 4Q66 ที่ 48.7% สู่ 46.8-47.8% เนื่องจากการขายในงานใหญ่ทำให้ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลง นอกจากนี้ คาดว่า SG&A จะทรงตัวใกล้เคียง 4Q66 ที่ 131 ลบ. ส่งผลให้เราคาดกำไร 4Q67 ราว 37-42 ลบ. โต QoQ แต่อ่อนตัว YoY ทั้งนี้ รายงานกำไร 9M67 ที่ 103 ลบ. -31%YoY และคิดเป็น 70% ของประมาณการ
•คาดการณ์รายได้และกำไรปี 67 ราว 1,403 ลบ. -10%YoY และ 146 ลบ. -28%YoY ตามลำดับ โดยรายได้ที่ปรับตัวลงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคอีสานใน 3Q67 และผลกระทบจาก เพชรสังเคราะห์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ปี 2566 มีส่วนแบ่งการตลาด 9.3% เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในปี 2563 เนื่องจากราคาต่ำกว่าเพชรธรรมชาติกว่า 50% แต่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงจากปี 66 ที่ 48.6% สู่ 47.7% จากยอดขายสินค้าที่ลดลง ต้นทุนเครื่องประดับเพชร และทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้ น ด้านค่าใช้จ่าย SG&A คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1%YoY สู่ 509 ลบ.
•ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเหมาะสม 12.10 บาท แม้ว่าจะมี upside 20% แต่ราคาปรับตัวลงตามดัชนีและผลประกอบการยังไม่มีสัญญาณการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นมีข่าว
(+) BCH (Bloomberg Consensus 20.50 บาท) รับสภาพอากาศผันผวน ฝุ่น PM 2.5 รุนแรง ดันผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจพุ่ง โดยเฉพาะเด็กหนุนอัตราครองเตียง 60-70% ตั้งเป้ารายได้รวมโตไม่ต่ำกว่าสองหลัก ประสบความสำเร็จดึงลูกค้าต่างชาติ ประสานมัลดีฟส์ส่งต่อผู้ป่วยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะที่ฐาน CLMV โตต่อเนื่อง ลุ้นลูกค้าคูเวตกลับมาครึ่งปีหลัง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SYNEX (Bloomberg Consensus 17.40 บาท) คาดปี 2568 ผลงานโตต่อเนื่องจากปี 2567 รับดีมานด์โตเด่น แถมปลื้มมือถือรุ่นใหม่ "HORNOR X9c" ถึกทน กระแสตอบรับดี หนุนยอดขายเพิ่มขึ้น แถมส่องต่างชาติแห่ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ขยายพอร์ตฮาร์ดแวร์ แข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AAV (Bloomberg Consensus 3.40 บาท) ขยายฮับภูเก็ต เดินหน้าบุกตลาดอินเดีย เปิดเส้นทางบินใหม่ บินตรงจากภูเก็ต-โกชิ ราคาเริ่มต้น 3,690 บาทต่อเที่ยวบิน พาท่องอินเดียใต้ ดินแดนแห่งทะเลอาราเบียน มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SNNP (Bloomberg Consensus 15.00 บาท) ส่งซิกยอดขายโมเดิร์นทะลัก ด้านผู้บริหารใส่เกียร์เดินหน้าปั๊มรายได้ในประเทศให้เติบโตได้ต่อเนื่องจากปี 2567 รับรุกอัพฐาน-ผุดสินค้าใหม่ป้อนตลาดเพิ่ม แถมยังได้อานิสงส์ "Easy E-Receipt" ยาวถึงสิ้นเดือนหน้าหนุน (ที่มา ทันหุ้น)