เจ.พี.มอร์แกน ชี้ ‘การชำระเงินดิจิทัล’ อาจมีความจำเป็นในอนาคต แม้คนใช้คริปโทฯ ลดลง

Takis Georgakopoulos หัวหน้าฝ่าย wholesale payments ของ J.P.Morgan  กล่าวในรายการ Bloomberg Television  ว่าการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีมี “กรณีการใช้งานเฉพาะ” พูดถึงความต้องการใช้งานคริปโทฯ เป็นวิธีการชำระเงินลดลงอย่างมากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันธนาคารก็ยังไม่สามารถรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินได้

 

“เมื่อพูดถึงคริปโทฯ เป็นวิธีการชำระเงิน ที่เราเห็นความต้องการมากมายจาก ลูกค้าของเราถ้าพูดถึงเมื่อหกเดือนก่อน ในขณะนี้เราเห็นน้อยกว่ามาก” Georgakopoulos ระบุ

เจ.พี.มอร์แกน กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนมีข้อได้เปรียบที่ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้โดยไม่ต้องมีตัวกลางเมื่อพูดถึงความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ฯลฯ รวมทั้งตลาดของเกมเป็นอีกพื้นที่หนึ่งของการเติบโต ซึ่งเกมเป็นจุดตัดของโลกจริง โลกเสมือน และคริปโทฯ ที่จะเกิดขึ้นในเกมแบบดั้งเดิม และเมตาเวิร์ส (metaverse)

เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาตลาดคริปโทฯ ปรับตัวลดลง อย่างรุนแรง ตลาดสูญเสียมูลค่าไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี บริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีชื่อเสียงอย่าง Terraform Labs และ Three Arrows Capital ล้มละลาย และ Bitcoin ที่เคยยืนเหนือ 65,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ตอนนี้เคลื่อนไหวต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์

CBDCs การชำระเงินทางเลือก

CBDCs การชำระเงินทางเลือก เช่น สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าสกุลเงินของประเทศดิจิทัลจะทำงานอย่างไร

“ยังไม่เห็นขอบเขต และข้อกำหนดการใช้ที่ชัดเจน ยกเว้น หยวนดิจิทัลของจีนที่อาจเป็นไปได้ ซึ่งได้รับการทดสอบมาตั้งแต่ปี 2020 มันคือ หนึ่งในเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าที่สุด แต่ต้องเผชิญกับการตรวจสอบ และการวิพากษ์วิจารณ์ในต่างประเทศเกี่ยวกับการติดตามที่เป็นไปได้” 

Georgakopoulos กล่าวว่า “สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลบนบล็อกเชนคือ ความสามารถในการย้ายข้อมูล และมูลค่าในเวลาเดียวกัน แบบเรียลไทม์ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ของระบบการชำระเงินแบบเดิม”

 

ซึ่งเป็นเหตุผลที่ J.P.Morgan กำลังลงทุน ในเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองที่สามารถรับสกุลเงิน fiat เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางในขณะที่มีการพัฒนาในอนาคต

 

J.P.Morgan ยังสนับสนุน Ownera การเริ่มต้นสินทรัพย์ดิจิทัลในลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผ่านการระดมทุน Series A มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่า Internet of Things, อุปกรณ์อัจฉริยะ และความคล่องตัว 

การชำระเงินทางดิจิทัลใหม่อาจมีความจำเป็นในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ โลกยังอีกยาวไกล

“ผมคิดว่าเรายังคง…มีทางที่จะก้าวไปข้างหน้า”

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์