Zipmex แจงถอด 7 เหรียญ เหตุวอลุ่มซบเซา เร่งปิดดีล-เสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Zipmex ชี้แจงผ่านไลฟ์เฟซบุ๊ก ถึง 2 กรณีที่ผู้เสียหายยังคงติดตามการแก้ปัญหาและการดำเนินงาน

ล่าสุด บริษัทได้ประกาศเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัลบนกระดานเทรด จำนวน 7 เหรียญ บนแพลตฟอร์ม "ซิปเม็กซ์" เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมานี้ซึ่งทำให้ลูกค้ามีข้อกังวลใจ

ได้แก่ 1. Kyber Network Crystal v2 (KNC) 2. Swipe (SXP) 3. Basic Attention Token (BAT) 4. Synthetix (SNX) 5. The Graph (GRT) 6. 0x (ZRX) 7. Bancor (BNT) โดยจะยุติการให้บริการซื้อ-ขาย-ฝาก ในวันที่ 11 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 น. และวันสุดท้ายที่ลูกค้าจะสามารถถอนสินทรัพย์ทั้ง 7 เหรียญ ในช่องทางเว็บไซต์, แอปพลิเคชั่นซิปเม็กซ์ ได้คือวันที่ 9 มกราคม 2566

 

 

นายเอกลาภ กล่าวว่าเนื่องจากปีที่แล้วบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีแผนในการเพิ่มเหรียญบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่ด้วยสถนาการณ์ตลาดคริปโทในช่วงนี้ที่มีปริมาณการซื้อขายโดยรวมที่ลดลง ทำให้บริษัทมีการประเมินศักยภาพของทรัพยากรในบริษัทใหม่ และเห็นว่าควรปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล

ทั้งนี้ในอนาคตยังมีแผนที่จะคัดสรรค์สินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆที่ศักยภาพและสามารถสร้าง ผลตอบแทนให้กับลูกค้าในอนาคตได้ จะมีการเพิกถอนเหรียญอย่างต่อเนื่องในอนาคต พร้อมขอให้ลูกค้าวางใจว่ากระดานซิปเม็กซ์จะไม่มีการปิดกระดานซื้อขายอย่างแน่นอน 

 

กระบวนพักชำระหนี้ต่อศาลสิงคโปร์

และในประเด็นถัดมา คือ กระบวนพักชำระหนี้ต่อศาลสิงคโปร์ นายเอกลาภขอแจ้งว่าการระดมทุนดำเนินการไปในทางที่วางไว้และไปได้ดี หลังจากมีการระดมทุนเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนี้จะมีการเสนอแผนโครงสร้างหนี้และประกาศให้ทุกท่านทราบ ซึ่ง คาดว่าเบื้องต้นจะประกาศผ่านทางออนไลน์ และเข้าสู่การประชุมเจ้าหนี้เพื่อให้การอนุมัติการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยการอนุมัติเบื้องต้นจะเป็นการจัดการผ่านช่องทางออนไลน์ 

ภายหลังขั้นตอนการอนุมัติทางผู้ทำแผนจะยื่นขอให้ศาลมีการอนุมัติดำเนินการจัดการ และทำงานร่วมกับซิปเม็กซ์เพื่อให้บริษัทสามารถกลับมาเปิดใช้งานได้เป็นปกติ 

ในส่วนของระยะเวลาในการดำเนินงานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเวลาของศาลสิงคโปร์ที่จะจัดประชุมกับเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหลายหมื่นคน ซึ่งทางบริษัทและทีมงานจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง 

ซึ่งขณะนี้ ทิศทางการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มีความก้าวหน้าและมีทิศทางไปในเชิงบวกอย่างที่ทุกท่านเห็น 

นายเอกลาภทิ้งท้ายว่า "ผม บริษัทและทีมงานทุกคน ยังคงดำเนินการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง และยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย"