บิตคอยน์ร่วง 2.12% เคลื่อนไหวที่ 16,228.8 ดอลล์ หลัง BlockFi ประกาศล้มละลาย

นายมาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า บิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดิ่งลงต่อไป โดยจะแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ นายโมเบียสกล่าวว่า เขาจะไม่นำเงินของตนเอง หรือเงินของลูกค้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีความเสี่ยงมากเกินไป

บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2565 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

BlockFi ประกาศล้มละลายในวันจันทร์(28พ.ย.) โดยบริษัทยื่นเรื่องต่อศาลแขวงในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย

BlockFi ซึ่งมีมูลค่าตลาด 4.8 พันล้านดอลลาร์ เปิดเผยว่า บริษัทมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย รวมทั้งมีหนี้สินและทรัพย์สินราว 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ BlockFi ซึ่งให้บริการรับฝากคริปโทเคอร์เรนซี และมีกระดานเทรดของตนเอง เป็นหนึ่งในบริษัทจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯอันดับ 2 ของโลก

ก่อนหน้านี้ BlockFi ประกาศระงับการถอนเงินของลูกค้า โดยยอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล้มละลายของ FTX

FTX ได้ยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พ.ย. โดยมีเจ้าหนี้มากกว่า 1,000,000 ราย ขณะที่บริษัทในเครือราว 130 แห่งเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ซึ่งรวมถึงบริษัท Alameda Research และ FTX.us

FTX ได้กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน จากเดิมที่มีสินทรัพย์มากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตสภาพคล่องจากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงิน ขณะที่ Binance ถอนตัวจากข้อตกลงซื้อกิจการ