ดาวโจนส์ร่วง 339 จุด ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังจ้างงานแกร่ง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(5ม.ค.)ปรับตัวลง 339 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 339.69 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 32,930.08 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 44.87 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 3,808.10 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 153.52 จุด หรือ 1.47% ปิดที่ 10,305.24 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย
นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 1.694 ล้านราย
ขณะเดียวกัน ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 153,000 ตำแหน่ง จากระดับ 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำกว่าคาด และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่สูงกว่าคาด บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 45.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 27.2%
นอกจากนี้ นักลงทุนลดคาดการณ์เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมดังกล่าว โดยให้น้ำหนัก 54.1% จากเดิมที่ให้น้ำหนักสูงถึง 72.8%
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%