Bitkub เปิด 5 วิธีลงทุนอย่างเหมาะสมที่สุดในคริปโต แบบไม่มีเอ้าท์

5  วิธีลงทุนคริปโต ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพสิ่งสำคัญ ได้แก่

1. การกระจายพอร์ตการลงทุน
2. การหมั่นศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์
3. การติดตามข่าวสารเป็นประจำ
4. การเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ
5. ใช้เงินเย็นลงทุนเท่านั้น

การจดจำทั้ง 5 ข้อนี้ไปใช้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จลงทุนได้

 

คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง

ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนประเภทใดก็ตาม โปรดระลึกไว้เสมอว่าล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก๋า เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด ควรศึกษาหาความรู้ไว้เสมอ เพื่ออัพเดทข้อมูลให้ตามทันตลาดอยู่ตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนใน คริปโตเคอร์เรนซี ในวันนี้ Bitkub Exchange  ชวนมาเรียนรู้ 5 วิธีลงทุนในคริปโตที่เหมาะสมที่สุด พร้อมอธิบายตัวอย่างขยายความเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจอย่างชัดเจนที่สุด 

 

 

 

5 วิธีลงทุนในคริปโต ที่เหมาะสมที่สุดพร้อมตัวอย่างกันได้ ดังนี้ 

1.กระจายพอร์ตการลงทุน

ในวงการการลงทุนมีประโยคที่กล่าวไว้ว่า “Don’t put all your eggs in one basket.” ที่แปลว่า “อย่าใส่ไข่ทุกใบไว้ในตระกร้าใบเดียว” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ผู้เชี่ยวชาญเกือบทุกคนต่างแนะนำนักลงทุนมือใหม่อยู่เสมอ

ความหมายของประโยคนี้ก็คือ นักลงทุนไม่ควรลงทุนแค่กับสินทรัพย์เดียว แต่ควรแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย เผื่อในกรณีที่สินทรัพย์ตัวหนึ่งมีมูลค่าลดลง นักลงทุนก็ยังมีสินทรัพย์อื่นคอยช่วยไม่ให้ขาดทุนมากเกินไป

ยกตัวอย่าง ปกตินักลงทุนเลือกลงทุนแค่ในเหรียญ Altcoin ที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนควรแบ่งทุนมายังเหรียญที่มีความผันผวนต่ำลงมาอย่าง Bitcoin หรือ Stablecoin บ้าง หรือนักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนไปยังตลาดอื่น เช่น หุ้น ตราสารหนี้ พันธบัตร ฯลฯ เป็นต้น เพื่อทำให้พอร์ตลงทุนมีความหลากหลายเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น

 

2.ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง

นักลงทุนไม่ควรลงทุนตามคำแนะนำของคนอื่นเพียงเพราะเขามีชื่อเสียงหรือมีประสบการณ์เพียงอย่างเดียว ถ้าจะให้ดีที่สุดคือนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองจากหลาย ๆ แหล่งประกอบกัน เช่น ศึกษา Whitepaper ของแต่ละเหรียญ ศึกษาว่าทีมพัฒนาเป็นใคร มีที่มาอย่างไร ดูวัตถุประสงค์ที่สร้างเหรียญขึ้นมา เป็นต้น

ยกตัวอย่าง หากนักลงทุนสนใจ Ethereum นักลงทุนสามารถเริ่มต้นศึกษาจากบทความ รู้จัก Ethereum ที่ Bitkub Blog สรุปข้อมูลที่น่าสนใจเบื้องต้นมาให้แล้ว จากนั้นนักลงทุนก็สามารถไปที่เว็บไซต์ของ Ethereum เพื่อดูข้อมูลเชิงลึก หรือสอบถามจากกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจด้วยตัวเองว่า Ethereum น่าลงทุนหรือไม่

3.ติดตามข่าวสารเป็นประจำ

การติดตามข่าวสารมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือสามารถช่วยให้นักลงทุนรับรู้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันหรือมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต สองคือทำให้เข้าใจภาพรวมทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ได้ และอย่างที่สาม การติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับสินทรัพย์หรือเหรียญที่กำลังสนใจ เช่น กำลังจะมีการอัปเดตสำคัญหรือไม่ หรือผู้พัฒนากำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่หรือไม่ จากนั้นนักลงทุนก็จะสามารถปรับกลยุทธ์ลงทุนให้เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารที่ดี นักลงทุนควรติดตามข่าวสารจากหลาย ๆ แหล่งหรือเว็บไซต์ข่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมโดยไม่ถูกแต่งเติมมากเกินไป และไม่ควรติดตามข่าวสารแค่วงการที่สนใจเท่านั้น ควรติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมด้วยถึงจะมีประสิทธิภาพที่สุด

 

4.เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ

การเลือกผู้ให้บริการเกี่ยวกับคริปโตไม่ว่าจะเป็นกระดานเทรดหรือกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลก็สำคัญไม่แพ้กันนักลงทุนควรศึกษาเกี่ยวกับผู้ให้บริการด้วยว่าสามารถเชื่อได้แค่ไหน มีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ และที่สำคัญคือไม่ควรหลงเชื่อผู้ให้บริการที่การันตรีว่าจะได้ผลตอบแทน เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพนั่นเอง

สำหรับผู้ให้บริการกระดานซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีที่ตั้งสำนักงานชัดเจน และมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือเป็นต้น

หากนักลงทุนสนใจใช้บริการกระเป๋า Self-custody หรือกระเป๋าที่ผู้ใช้ต้องดูแล Private key เอง ก็สามารถเลือกใช้กระเป๋าที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกและได้มาตรฐานอย่าง MetaMask หรือถ้าเป็นกระเป๋า Hardware Wallet ก็สามารถเลือกใช้กระเป๋าของ Trezor หรือ Ledger ได้เช่นกัน

 

5.ใช้เงินเย็นลงทุนเท่านั้น

เงินเย็นในที่นี้หมายถึง “เงินที่สามารถเสียไปได้” โดยไม่ก่อให้เกิดความยากลำบากทางการเงินหรือชีวิตประจำวัน เนื่องการลงทุนคริปโตมีความผันผวนสูงมาก สมมตินักลงทุนนำเงินที่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านมาลงทุน แต่ตลาดกลับไม่เป็นใจจนสูญเสียเงินก้อนสำคัญนั้นไป ปัญหาที่ตามมาอาจใหญ่กว่า เช่น มีปัญหากับเจ้าของบ้าน ปัญหากับคนในครอบครัว หรืออาจทำให้เป็นหนี้ก้อนใหญ่กว่าเดิมได้ เป็นต้น

วิธีที่นักลงทุนจะสามารถแบ่งเงินเย็นออกจากรายรับของนักลงทุนได้นั้น ก่อนอื่นต้องมาดูกันก่อนว่าแต่ละเดือนมีรายจ่ายในสิ่งจำเป็นเท่าไหร่บ้าง ยกตัวอย่าง

นักลงทุนมีรายรับเดือนละ 25,000 บาท ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน 9,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 2,000 บาท ค่าเดินทาง 3,000 บาท เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน 3,000 บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก 4,000 บาท รวมเป็น 21,000 บาท นักลงทุนจะเหลือเงิน 4,000 บาท เป็นเงินเย็นที่สามารถนำไปลงทุนได้นั่นเอง