แบงก์ชาติ "อินเดีย” ตั้งเป้าผู้ใช้ “รูปีดิจิทัล” ทะลุ 1 ล้านคน ใน 3 เดือน

แบงก์ชาติ "อินเดีย” ตั้งเป้าผู้ใช้ “รูปีดิจิทัล” ทะลุ 1 ล้านคน ใน 3 เดือน

แบงก์ชาติ “อินเดีย” ตั้งเป้าผู้ใช้ CBDC “รูปีดิจิทัล” ทะลุ 1 ล้านคน ใน 3 เดือน ขยายการใช้งานไปยัง 15 เมือง ร่วมกับธนาคารมากกว่า 13 แห่งพร้อมจัด "แฮกกาธอน" ระดมสมองแก้ช่องโหว่ระบบ CBDC

เมื่อ "คริปโทเคอเรนซี่" และ "สินทรัพย์ดิจิทัล" เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในยุคนี้ รวมถึงปริมาณการใช้เงินสดที่เริ่มลดลง ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มทำการศึกษาสกุลเงินดิจิทัลในช่วง 1-2หว่ ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน ธนาคารกลางในจีน ยุโรป และสหราชอาณาจักร ต่างกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดใช้สกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า Central Bank Digital Currency (CBDC) ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้ให้กู้ยืมเชิงพาณิชย์

 

มุ่งขยายฐานผู้ใช้งาน"รูปีดิจิทัล"

แบงก์ชาติอินเดีย เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีการนำร่อง ทดสอบการใช้ "รูปีดิจิทัล" ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2564 ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของ ธนาคารกลางอินเดีย (RBI)  กล่าวว่าได้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้งานไว้ที่ 500,000 ราย ภายในเดือนกรกฎาคมปี 2566 

เจ้าหน้าที่ของ RBI กล่าวว่า "ด้วยจำนวนประชากรของอินเดียที่มากที่สุดในโลก คาดว่าจะมีผู้ใช้ครบ 1 ล้านคนอย่างง่ายดาย" พร้อมเสริมว่าระยะเวลาเบื้องต้นในการเข้าถึงผู้ใช้ 1 ล้านคนใน 3 เดือน

 

ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) กำลังดำเนินโครงการนำร่อง CBDC โดยขณะนี้มีการใช้งาน CBDC ในเมืองอย่างน้อย 15 เมือง ร่วมกับธนาคารมากกว่า 13 แห่งเข้าร่วม ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้เริ่มโครงการนำร่อง CBDC เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 และมีลูกค้ามากกว่า 100,000 รายเข้าร่วมในช่วง 4 เดือนนับจากนั้น

 

สร้างโซลูชั่นแก้ปัญหา

รูปีดิจิทัล” ของอินเดียเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในการประชุมล่าสุดของกลุ่ม G-20 ในเบงการูล ประเทศอินเดีย

ชัคติคานตา ดาส ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย (RBI) กล่าวต่อสื่อว่า บุคคลที่มีอิทธิพลจากภาคการเงินระหว่างประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบ CBDC ของอินเดีย แต่ยังขาดความเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ 

ในปี 2566 แบงก์ชาติอินเดียได้จัดงาน Hackathon เพื่อหาโซลูชั่นในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ retail CBDC และหาทางปรับปรุงวิธีการรองรับการทำธุรกรรม, ความเร็วในการทำธุรกรรมและการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์

แบงก์ชาติอินเดียคาดว่า อาจนำบัตรเดบิต, เครดิต, เทคโนโลยีบลูทูธหรือ Smart Phone มาทำธุรกรรมออฟไลน์ ซึ่งปัญหาสำคัญที่ต้องป้องกันไว้คือเรื่องของ Double Spending 

Double Spending คือ เหตุการณ์ที่เงินดิจิทัลหน่วยเดียวแต่ถูกนำไปใช้ซ้ำซ้อน โดยมากเป็นการกระทำทุกจริตโดยนักโจรกรรมไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในการแฮ็กและแก้ไขข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์

ขณะนี้มีข้อเสนอกว่า 50 ข้อเสนอ ที่ยื่นเข้ามาให้กับแบงก์ชาติอินเดียเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการทำธุรกรรมออฟไลน์ ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้ขอความร่วมมือกับบริษัทเอกชนในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย 

แม้ว่ายังไม่ได้มีการประกาศชัดเจนกว่า retail CBDC ของอินเดียจะถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อใด แต่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะใช้งานอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2566