เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคา’บิตคอยน์’ กูรูชี้ uptober ลุ้นแตะ 3 หมื่นดอลล์
เดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโทฯ จำนวนมากโดยเฉพาะการเลื่อนอนุมัติ Bitcoin Spot ETFและ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมกับเปิดต้นเดือนต.ค.ด้วยราคาบิตคอยน์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 4% แตะ 28,315.84 ดอลลาร์ในวันที่ 2 ต.ค.2566
อภิชัย เอี่ยมไพศาล นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า จากสถิติในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ในเดือนต.ค.เป็นเดือนที่ราคาบิตคอยน์ทำผลงานได้ดีที่สุด จากมีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 10% ซึ่งเคยปรับขึ้นมากที่สุดถึง 60.79% ในปี 2556 ที่นักลงทุนเรียกว่า “Uptober” ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดคริปโทฯสดใส และคาดว่าราคาบิตคอยน์มีโอกาสขึ้นทดสอบที่ 28,600 ดอลลาร์ หรือปรับเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ดอลลาร์ อยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านบาท
รวมทั้งอีเธอเรียม (Ethereum) เหรียญคริปโทฯอันดับ 2 ของโลก ที่มีเซนติเมนท์กลับมามีความเคลื่อนไหวมากกว่าบิตคอยน์ หลังจากที่กองทุน Ether Futher ETFs ของสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง เปิดตัวพร้อมกันเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 ต.ค.2566 แม้ว่ายอดปริมาณการเทรดจะน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2 ล้านดอลลาร์ในชั่วโมงแรก แต่ก็ยังเป็นแรงกระตุ้นให้ราคาอีเธอเรียมมีโอกาสเติบโตในอนาคต คาดแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านสำคัญที่ 64,000 - 66,000 บาท
วรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุนบริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า มี 4 ปัจจัยทางเทคนิค และสถิติที่สนับสนุนเทรนด์การเติบโตของบิตคอยน์ในช่วงเดือนต.ค.
1. Transaction บน Bitcoin Network ทำ All time high แม้ว่าราคาของบิตคอยน์เคลื่อนตัวในกรอบ 25,000 - 27,500 ดอลลาร์ แต่จำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นบน Bitcoin Network นั้นทำระดับสูงสุด (All time high) จากการเปิดตัวของ Nostr ซึ่งเป็น Decentralized Social ใหม่ ทำให้การใช้งานของ Lightning Network และพื้นฐานของ Bitcoin Networkแข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อพิจารณาร่วมกับTransactionในแต่ละเดือนจะพบว่าหลังเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แนวโน้มของการทำธุรกรรมในBitcoin Networkนั้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีต
2.New Active Address ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี จากข้อมูลในอดีตจะพบว่า บิตคอยน์ทำ All time high ถึง 2 ครั้งในตลาดขาขึ้นปี 2560 และ 2064 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ New Active Address ของ Bitcoin Network เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุด และเมื่อพิจารณาถึงจำนวน New Active Address ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา จะพบว่ามีการใช้งานอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีตั้งแต่ปี 2560 และสูงกว่าปี 2564 ซึ่งแสดงถึงการใช้งานของผู้คนกลุ่มใหม่มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นหลักฐานที่แสดงว่า Bitcoin Network ถูกนำมาใช้งานสูงขึ้น แม้ราคาบิตคอยน์ยังไม่เผยว่าเป็นขาขึ้นรอบใหม่อย่างชัดเจน
3. อัตรา Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นหนุนราคาบิตคอยน์ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. อัตราของ Bitcoin Dominance
ซึ่งเป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญในวงการคริปโทฯเริ่มมีการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยวิ่งอยู่ในกรอบ 49% - 52% เป็นเวลากว่า 4 เดือน หลังจากมีการพักฐานใหม่เกิดขึ้นในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาของ Digital Asset อื่นๆ นั้นถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แนวต้านสำคัญของ อัตรา Bitcoin Dominance อยู่บริเวณ 52% ซึ่งเป็นโอกาสให้เดือนต.ค.นี้บิตคอยน์มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงและน่าจับตามองมากกว่าDigital Assetตัวอื่น ๆ
4.โอกาสอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จาก SECสหรัฐ ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แม้การยื่นอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ของ ARK 21Shares จะถูกเลื่อนออกไป แต่ในเดือนต.ค.นั้นมีบริษัทที่รอการอนุมัติจากSEC สหรัฐเป็นจำนวนมาก ดังนั้นประเด็นนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ตลาดคริปโทฯและบิตคอยน์เป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม หาก SEC สหรัฐยังไม่อนุมัติในครั้งนี้และเลื่อนออกไป ปัจจัยนี้ก็ยังไม่กดดันภาพรวมของตลาดเนื่องจาก Final Deadline ของบริษัทต่าง ๆ อยู่ในช่วงเดือนมี.ค. 2567
พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอลจำกัด กล่าวถึงการ “วางแผนการลงทุน” ในเดือนต.ค.ว่า เนื่องจากปัจจัยเชิงพื้นฐานของบิตคอยน์ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จนทำให้ Bitcoin Dominance ยังอยู่ในระดับที่สูงและมีหลายปัจจัยบวกสนับสนุนอยู่ในอนาคต
ดังนั้นในเดือนต.ค.บิตคอยน์ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ Cryptomind Advisory ที่ได้มีการคาดการณ์ว่าบิตคอยน์อาจขึ้นไปทดสอบที่ราคา 31,500 ดอลลาร์ หากผ่านแนวต้านสำคัญที่ 25,500 -27,000 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ แต่เนื่องด้วยบิตอคยน์และคริปโทฯยังเป็นสินทรัพย์การลงทุนใหม่ที่มีความ “ผันผวนสูง” นักลงทุนทุกท่านต้องศึกษาสินทรัพย์นี้ รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด