‘กสิกรเอ็กซ์’ ลุยลงทุนเทคฯ สตาร์ตอัป หนุนเติบโตสู่ผู้นำ 'ดิจิทัล'

‘กสิกรเอ็กซ์’ ลุยลงทุนเทคฯ สตาร์ตอัป  หนุนเติบโตสู่ผู้นำ 'ดิจิทัล'

เมื่อระบบการเงินเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านไปยัง “การเงินแห่งอนาคต” ทำให้ผู้ให้บริการทางการเงินอย่าง “ธนาคาร” ต้องเข้าสู่โลกดิจิทัล เพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้ใช้บริการมากขึ้น ที่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสร้างธุรกิจเพื่อเป็นผู้นำทางการเงินดิจิทัล

บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG  บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าว่าจะเป็นสถาบันการเงินที่เติบโตไปพร้อมกับ“ดิจิทัล”ทำให้ KBTG ได้จัดตั้งบริษัทใหม่ในกลุ่มเพิ่มอีก 1 บริษัท เพื่อรองรับธุรกิจในโลกดิจิทัลในอนาคต คือ บริษัท กสิกร เอ็กซ์ จำกัด หรือ KX ทำหน้าที่เป็น Venture Builder หรือเสมือนโรงงานที่ผลิต Startup หรือธุรกิจใหม่ๆ ที่ปฏิบัติการเป็นอิสระ (Autonomous Venture Builder) มีเป้าหมายในการผลิตธุรกิจด้าน Decentralized Finance and Beyond​​

ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder บริษัท กสิกร เอ็กซ์ จำกัด (KX) อธิบายว่า KX ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นอิสระจากธนาคารกสิกรไทย และ KBTG  มีจุดเด่นคือ ดำเนินธุรกิจแบบสตาร์ตอัป และมีเป้าหมายในการผลิตธุรกิจด้าน Decentralized Finance and Beyond ที่เป็นแนวคิดในการขับเคลื่อนกิจการ ผ่านการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีผ่านกองทุนมูลค่า 100 ดอลลาร์ หรือราว 3,500 ล้านบาท ขณะนี้มีการลงทุนไปพอสมควรแล้ว แต่ยังคงมองหาการลงทุนที่น่าสนใจอยู่เรื่อยๆ

ดังนั้นทำให้เปิดตัวเงินลงทุน KXVC (Venture Capital) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าลงทุนใน AI, Web3 และ Deep Tech fintech startups และเครือข่ายกองทุนชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายในภูมิภาค ทั้งนี้ในเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสอดรับกับเทรนด์ของเทคโนโลยีที่ผ่านมาและผลักดันให้ AI, Web3 และ Deep Tech เกิดการนำไปใช้งานจริง

โดยมี 2 เกณฑ์ในการเลือกลงทุน คือ 1.ความน่าสนใจของเทคโนโลยีที่บริษัทนั้นๆ กำลังพัฒนา ว่าสามารถแก้ปัญหาในโลกปัจจุบันได้จริง และ 2.ความน่าสนใจของฟาวเดอร์ ในระดับ “เก่ง” ที่มีองค์ความรู้ที่สามารถแชร์ในกับบริษัทผู้ลงทุนได้ด้วย เพราะกสิกรไม่ได้รู้หมดทุกอย่าง

ภายใต้การลงทุนไม่เพียงแต่ได้ความรู้เข้ามาเพิ่มให้กับกสิกรเท่านั้น ในอีกมุมคือ การเป็นพาร์ตเนอร์ชิปร่วมกันเพื่อเปิดประตูสู่นักลงทุนกลุ่มใหม่ในอนาคตให้บริษัทสตาร์ตอัปเติบโตได้ เพื่อแก้ปัญหาสตาร์ตอัปที่ปัจจุบันได้เงินทุน แต่ไม่มีพาร์ตเนอร์ ทำให้พวกเขาทำงานได้ลำบาก  

 "KX จึงเป็น Venture Builder หรือโรงงานผลิตสตาร์ตอัป และธุรกิจใหม่ ทำงานแยกจากธนาคารกสิกรไทย และ KBTG ที่สำคัญคือ มีทีมงานเป็นคนเวียดนาม และจีน ทั้งสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษทั้งองค์กร'

อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Deep Tech เหล่านี้ จะต้องมีความระมัดระวัง เพราะอุตสาหกรรมนี้มีขึ้น และมีลง ทำให้ KX ต้องทำงานหนักในการตรวจสอบ และหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน เพื่อป้องกันการหลอกลวง หรือเทคโนโลยีที่ไม่พร้อมใช้งาน ต้องคำนึงถึงความแข็งแรงขององค์กร และผู้บริหารเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องสำรวจสภาวะตลาดของธุรกิจนั้นๆ และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย

สำหรับบริษัทแรกที่ได้จัดตั้งคือ Kubix แพลตฟอร์มการระดมทุนในรูปแบบ ICO ที่องค์กรต่างๆ สามารถระดมทุนง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพ ด้วยการจำหน่ายDigital Token ที่มีเทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการช่วยปลดล็อกบริการทางการเงินในประเทศไทย

และ Coral แพลตฟอร์มจำหน่ายงานศิลปะ NFT ระดับโลก จากจุดเริ่มต้นของ Coral มาจากงานศิลปะของศิลปินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โดดเด่น แต่อาจไม่ได้รับโอกาสในการก้าวไปในระดับโลก KX จึงต้องการขับเคลื่อนวงการนี้ด้วยการพาพวกเขาเติบโตด้วย NFT 

และ Endless Capital กองทุนเกี่ยวกับการลงทุนในสตาร์ตอัปของ KX เน้นลงทุนในรอบ Seed และ Pre-Series A และลงลึกในสตาร์ตอัปที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Web3, DeFi, Metaverse และอื่นๆ โดยมีเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG เป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนอย่างใกล้ชิด

ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ข้างต้นของ KX แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายการตอบโจทย์ธุรกิจด้วยสิ่งที่เหนือกว่าบริการทางการเงิน และการตอบโจทย์นี้ไม่ใช่แค่สำหรับองค์กรธุรกิจในไทย แต่หมายถึงองค์กรในอาเซียน และพื้นที่อื่นๆ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์