เปิดกระดาน ‘คริปโท’ ปี67  ‘บิทคับ’ ชี้รายใหญ่ลงทุน หนุนตลาดคึกคัก

นั่นคือเอ็นวิเดีย NVIDIA Corp (NVDA) ที่เติบโตขึ้นในปีนี้กว่า 241% ซึ่งแซงหน้า บิตคอยน์ที่ราคาเติบโตขึ้น163% แม้จะมีสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ตึงตัวและมีอุปสรรคในอุตสาหกรรมคริปโทเกิดขึ้นก็ตาม แล้วในปีถัด 2567 ตลาดคริปโทจะเป็นอย่างไร

สถาบันการเงินเวฟถัดไปของคลาดคริปโท

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ “บิทคับ”  มองว่า เวฟถัดไปของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล จะเป็นการมาของ “สถาบันการเงิน” ที่เรียกได้ว่าเป็น “ซีเรียสมันนี่” หรือเม็ดเงินที่มีการลงทุนอย่างจริงจัง โดยเม็ดเงินลงทุนจากสถาบันการเงินถือว่าใหญ่กว่าเม็ดเงินลงทุนจากรายย่อยมาก ใน 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดคริปโทถูกขับเคลื่อนจากนักลงทถนรายย่อยเป็นหลัก

การมาของธนาคารสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ทุกประเทศทั่วโลกเริ่มมีความเคลื่อนไหว ทั้งธนาคารแห่งชาติสิงคโปร์ (DBS) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (J.P. Morgan) ซึ่งการเข้ามาของสถาบันการเงินจะเรียกเม็ดเงินลงทุนจากสถาบันการเงินด้วย 

สิ้นสุดปีแห่งความหวัง เริ่มต้นปีแห่งความสดใส

สัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดคริปโทปี 2566 คือปีแห่ง “ความหวัง” ให้นักลงทุนกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้งปี 2567 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดคริปโทโลก และตลาดคริปโทไทยมีความ “สดใส” และความชัดเจนมากขึ้น

แม้ว่าราคาบิตคอยน์จะปรับตัวขึ้นและทำผลงานได้ดีในปีนี้ ยังคงเชื่อว่าตลาดคริปโทไทยในปีหน้า ปี 2567 จะมีความ “สดใสและคึกคัก” มากขึ้น เพราะตลอดทั้งปีนี้มีการถือว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งนักลงทุนที่เคลื่นไหวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี และที่สำคัญคือกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาในตลาด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค เนื่องจากจะเป็นการเรียกความเชื่อมันว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือและมีเงินสำรองที่มากพอในการจัดการเรื่องสภาพคล่อง

ตลอดทั้งปีมีการคาดการณ์ถึงการรออนุมัติ กองทุน Bitcoin Spot ETF ที่จะทำให้เกิดการจัดสรรเงินจากผู้จัดการกองทุน เข้าไปยังตลาดคริปโทมากขึ้น หรือแม้แต่แนวโน้มการลดลงอัตราดอกเบี้ยของ Fed (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) ที่ทำให้มี Risk Appetite (ความต้องการเสี่ยงมากขึ้น) ในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้นกว่าในปีนี้ ซึ่งตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริง เช่นเมื่อเกิดสถานการณ์แบงก์ล่ม ก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนถึงขั้นทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมายไม่เพียงแค่บิตคอยน์เท่านั้น ยังรวมถึงคริปโทตัวอื่นๆ อย่างอัลคอยน์ และสเตเบิลคอยน์ 

วอลลุ่มใช้งานสเตเบิลคอยน์เพิ่ม

รวมทั้ง “สเตเบิลคอยน์” สกุลเงินดิจิทัลที่ตรีงมูลค่ากับสกุลเงินดั้งเดิมแบบ 1 ต่อ 1 กลับมีปริมาณการใช้งานเยอะขึ้นในแง่ของการนำมาเป็นตัวกลางในการโอนเงินระหว่างประเทศ สะท้อนจากวอลลุ่มการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นในตลอดทั้งปี เช่น มาร์สเตอร์การ์ด และวีซ่า ซึ่งเป็นสถาบยันการเงินชั้นนำของโลก นำคริปโทเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนารูปแบบการเงินที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ใช้งานง่ายมากขึ้น

คลีความเริ่มคลี่คลาย

และคดีความต่างๆ ในอุตสาหกรรมคริปโท ทั้งโดมิโนเอฟเฟกต์ Luna-Terra คือ นายโด ควอน อดีตประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งTerraform Labs เจ้าของโปรเจกต์ Terra อยู่ในระหว่างการพิจารณาในต่างแดน และFTX ที่ล่มสลายคือ  แซม แบงก์แมน ฟรีด อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง FTX ถูกตัดสินจากศาลนิวยอร์กของสหรัฐฯในเดือนพ.ย.อาจมีโทษจำคุกนาน 110 ปี จากการมีความผิดในข้อหาฉ้อโกงการยักยอกเงินและสมรู้ร่วมคิดทางอาญารวม 7 ข้อหา

ด้าน Zipmex ประเทศไทย ประกาศระงับการเทรดชั่วคราวโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยลูกค้าสามารถถอนสินทรัพย์ออกจาก Trade Wallet ผ่านทางหน้าเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นได้ถึง 31 ม.ค.67 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้มีความผิดข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนล่าสุดกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่ในปี 2565 และ 2566 เริ่มคลี่คลาย

บทเรียนนักลงทุน

ถือเป็น “บทเรียน” ของนักลงทุนในตลาดคริปโทที่ฝากเงินไว้ในศูนย์ซื้อขายจำนวนมาก หรือการนำสินทรัพย์เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่สูง ทำให้นักลงทุนมีความ“รอบคอบ”มากขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาวจะเห็นภาคการลงทุนที่มีจังหวะมากขึ้น จังหวะในการเข้าซื้อ จังหวะในการเทขาย

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาบิตคอยน์จะ “ย่อตัวลง” เล็กน้อย เพราะตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ก่อนการปรับตัวสู้ “ขาขึ้น” อย่างแข็งแกร่ง เราอาจเห็นการปรับตัวลดลงในระยะสั้น