BTC จอดนิ่ง 40,000 ดอลลาร์ ไหนใครว่า Bitcoin ETF จะทำราคาทะยาน To the Moon
ไหนใครบอกว่า Bitcoin ETF อนุมัติแล้ว ราคาบิตคอยน์จะพุ่งทะยาน To The Moon แต่ทำไมราคาบิตคอยน์ ดิ่งยับเยิน ร่วงลงกว่า 15% เคลื่อนไหวที่ 40,000 ดอลลาร์ ตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หรือต้นเหตุคือ "วาฬ" บิตคอยน์ ทุบเทขายบิตคอยน์เละเทะ เกือบ 1 แสนเหรียญกดดันตลาดคริปโท
Keypoint:
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ Bitcoin Spot ETF จะทำราคาพุ่ง 1,000%
- ราคาบิตคอยน์ร่วง 15% ตั้งแต่เปิดตลาดซื้อขาย Bitcoin ETF
- 2 ปัจจัยกดดันตลาด Sell on fact และ นักลงทุนเทขายทำกำไร
- วาฬ Grayscale ทุบเทขายบิตคอยน์ 8 ครั้ง เกือบ 1 แสนเหรียญ
Bitcoin Spot ETF หรือ กองทุนบิตคอยน์ กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทั้งวงการสินทรัพย์ดิจิทัลต้องพูดถึงการอนุมัติจาก ก.ล.ต.สหรัฐเมื่อวันที่ 11 ม.ค.และเปิดตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ให้บริการรวมทั้งสิ้น 11 แห่ง
ก่อนจะไฟเขียว มีนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ไว้ถึงข้อดีหลายอย่าง ทั้งเปิดโอกาสนักลงทุนเข้าถึงได้มากขึ้น ซื้อขายสะดวก รวดเร็วมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าของอุตสาหกรรมนี้ และมองว่าอุตสาหกรรมคริปโท อาจกำลังเข้าสู่ภาวะกระทิงครั้งใหม่จาก "bitcoin Having" และ "การอนุมัติกองทุนคริปโท" ที่เป็นไปได้ในสหรัฐเป็นครั้งแรก เป็น 2 เหตุผลที่ทำให้หลายคนทำนายราคาบิตคอยน์ในปี 2567
กูรูในวงการคริปโทได้คาดการณ์ราคาบิตคอยน์ในปี 2567 ว่าอาจจะปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ 60,000 ดอลลาร์ถึง 500,000 ดอลลาร์หรือ 1,000% ต่อ 1 เหรียญบิตคอยน์
2 ปัจจัยกดดันตลาด
แต่เหมือนจะลืมไปว่าข่าวกองทุนบิตคอยน์ ถูกพูดถึงบ่อยจนหายตื่นเต้นไปแล้ว และอีกด้านของข่าวดีที่ทำให้ราคาปรับขึ้นไปเกือบ 50,000 ดอลลาร์ อาจจะมี เฮดจ์ฟันด์ หรือกองทุนที่ถือบิตคอยน์อยู่ จ้องจะเทขายบิตคอยน์อยู่ก็ได้
พออนุมัติแล้ว Bitcoin ETF ไม่ได้ดันราคาตามที่ทุกคนหวัง แถมยังร่วงลงกว่า 15% จอดนิ่งสนิท ลงไปต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ เมื่อมองจากปัจจัยภายในตลาดคริปโทมี 2 ส่วนหลักๆที่ส่งผลกระทบ
ราคานี้เป็นราคาที่ตลาดคาดหวังไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ “บิตคอยน์ถูก Sell On Fact” หรือ การขายเมื่อความจริงปรากฎ คือการที่นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรในสินทรัพย์บางอย่างก่อนที่ข่าวจะออกมา จนถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะเทขาย ถือเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อ Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติจะมีคนขายเพื่อทำกำไร
วาฬบิตคอยน์ เทขายทำกำไร
ส่วนปัจจัยที่ 2 คือ ในตลาดการลงทุน”รายใหญ่” มีอำนาจในการคุมราคาสินทรัพย์ ในสถานการณ์นี้ “วาฬบิตคอยน์” จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก Grayscale’s spot ETF ที่มีบิตคอยน์ในมือทั้งหมด 5.3 แสนบิตคอยน์ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก และตั้งแต่เปิดตลาด Bitcoin ETF เทขายบิตคอยน์ไปแล้ว 8 รอบ กว่า 7.3 หมื่นบิตคอยน์ จนกลายเป็นกำแพงกดดันราคาบิตคอยน์และทำให้ตลาดผันผวน
ราคาถูกกดจากการขายแชร์ของ GBTC การเปลี่ยนแปลงจาก Grayscale Bitcoin Trust เป็น Bitcoin Spot ETF ทำให้มี Discount ของกองทรัสมากถึง 50% จนต้องเทขายบิตคอยน์เพื่อทำกำไร
เพราะราคาสินทรัพย์ไม่ได้ขึ้นเพราะมีคนซื้อ แต่ขึ้นได้เพราะไม่มีคนขาย ก็ต้องดูต่อไปว่า Grayscale จะหยุดขายบิตคอยน์ตอนไหน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจดึงราคาบิตคอยน์ให้ต่ำถึง 36,000 ดอลลาร์
แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง สำหรับอนาคตของ Bitcoin ETF กูรูคริปโทหลายคนก็ยังเชื่อว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาด อย่าง ธนาคาร Standard Chartered ที่เชื่อว่าอาจจะดึงดูดเม็ดเงินให้ไหลเข้ามาในตลาดได้มากถึง 5 หมื่น - 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งปี