Tesla พลาดกำไรกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังขาย BTC เพื่อพยุงกระแสเงินสดอิสระ
เทสล่า(Tesla) บริษัทรถยนต์ของ อีลอน มัสก์(Elon Musk) พลาดโอกาสกำไรกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังขาย บิตคอยน์ (BTC) ไปมากกว่า 30,000 เหรียญ หรือประมาณ 75% เพื่อพยุงกระแสเงินสดอิสระ ซึ่งนับแต่นั้นก็ไม่มีการรายงานเกี่ยวกับการซื้อหรือขายบิตคอยน์เพิ่ม
เทสล่า(Tesla) บริษัทรถยนต์ของ อีลอน มัสก์(Elon Musk) พลาดโอกาสทำกำไร Bitcoin บิตคอยน์ (BTC) กว่า 300 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ไม่ได้ซื้อหรือขายบิตคอยน์ใด ๆ เลยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 หลังจากขายบิตคอยน์ไปมากกว่า 30,000 เหรียญ หรือประมาณ 75%
จากช่วงสิ้นไตรมาส 4 ของปี 2566 หลังการปรับตัวขึ้นของบิตคอยน์ กว่า 100% ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า Top 3 ของบริษัทผู้ถือครอง บิตคอยน์ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่ง Tesla ก็ได้ประกาศออกมาในใันที่ 24 มี.ค. ว่าการถือครองบิตคอยน์ ในงบของบริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หรือเรียกว่า “ไม่มีการซื้อขายเพิ่ม”
และด้วยราคาของบิตคอยน์ที่ระดับปัจจุบัน เคลื่อนไหวที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าการถือครองดังกล่าวมากถึง 387 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 13,500 ล้านบาท
เส้นทางการลงทุน BTC ของ Tesla
การลงทุนในบิตคอยน์ครั้งแรกของ Tesla เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ด้วยการลงทุนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในเวลานั้นราคาบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 36,000 ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่มีการรายงานยอดบิตคอยน์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ราคาหุ้นของ Tesla ลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับบิตคอยน์
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ Tesla ขายบิตคอยน์ ที่ถืออยู่ประมาณ 10% ในเดือนมีนาคม 2564 จากนั้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 บริษัทก็ขายบิตคอยน์ไปอีกประมาณ 75%
โดยยอดขายเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องของบิตคอยน์และเพื่อหนุนงบดุลของ Tesla ในช่วงระยะเวลาทางการเงินที่ไม่แน่นอน
ในอีกมุม ถ้าหาก Tesla เก็บเงินลงทุนบิตคอยน์ทั้งหมดไว้ บริษัทอาจเห็นกำไรมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณามูลค่าบิตคอยน์ในปัจจุบันที่ประมาณ 41,500 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การถือครองบิตคอยน์ที่เหลืออยู่ของบริษัท ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9,720 BTC ยังคงเท่าเดิมในไตรมาสล่าสุด
Bitcoin ตัวพยุง กระแสเงินสดอิสระ Tesla
สิ่งที่น่าสนใจคือ ยอดขายบิตคอยน์ของ Tesla ก่อนหน้านี้ ปรากฏในไตรมาสที่รายงาน free cash flows หรือกระแสเงินสดอิสระต่อกิจการที่มีความอ่อนแอลง
ตัวอย่างเช่น ในไตรมาสแรกของปี 2564 การขายบิตคอยน์ ของ Tesla ซึ่งมีมูลค่า 272 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 93% ของ free cash flows ของบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว
ในทำนองเดียวกันในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 free cash flows ของ Tesla ลดลง 73% ใกล้เคียงกับยอดขายบิตคอยน์
กล่าวคือ มัสก์ อาศัยการขายบิตคอยน์เพื่อเสริมการเงิน ในช่วงที่เงินสดของ Tesla มีจำกัดมากขึ้น ทำให้มัสก์อาจไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เดียวกันในตอนนี้ เนื่องจาก free cash flows ของ Tesla เพิ่มขึ้นตลอดปี 2566 ดังนั้น Tesla จะยังไม่ขายบิตคอยน์ที่เหลืออยู่
ตัวอย่างเช่น ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 free cash flows ของ Tesla แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 45% จากตัวเลขอยู่ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้มียอดรวม 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567
อ้างอิง cointelegraph