บิตคอยน์จ่อยึดบัลลังก์ทองคำ 'เคธี วูด' ชี้นักลงทุนโยกเงินเข้า Bitcoin ETF
'เคธี วูด' ซีอีโอของ ARK Invest คาดการณ์แนวโน้มของอนาคต"บิตคอยน์" ที่มีโอกาสเข้ามาแทนที่ "ทองคำ" หลังจากลงทุนโยกย้านเงินลงทุนเข้ามาในกองทุน Bitcoin ETF มากขึ้น พร้อมกับที่บิตคอยน์ได้พิสูจน์ตัวเองในการเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" เมื่อเกิดวิกฤติทางการเงินขึ้น
เคธี วูธ (Cathie Woods) ผู้บริหารของ ARK Invest คาดการณ์ว่า Bitcoin (BTC) มีแนวโน้มที่จะมาแทนที่ทองคำ ด้วยเหตุผลที่นักลงทุนสามารถซื้อขาย Bitcoin ได้ง่ายขึ้นผ่านกองทุน Spot Bitcoin ETF หลังจากการเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF นักลงทุนเริ่มโยกย้ายเงินลงทุนจากในทองคำเข้ามาสู่การลงทุนในบิตคอยน์ ตามที่ CEO ของ ARK Invest กล่าว
“เมื่อเปรียบเทียบกับทองคำ Bitcoin มีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ตอนนี้มีการแทนที่ทองคำด้วย Bitcoin และเรามองว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากตอนนี้มีวิธีเข้าถึง Bitcoin ที่ราบรื่นและสะดวกมากขึ้น”
เคธี วูด คาดหวังว่า Bitcoin จะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" ในยามที่ภาคการธนาคารแสดงสัญญาณอ่อนแอ และชี้ให้เห็นว่าตลาดได้เห็นปรากฏการณ์นี้กับตาตัวเองเมื่อเดือนมีนาคม 2566 เมื่อสหรัฐฯ ประสบกับวิกฤตธนาคารล้มละลาย ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นถึง 40%
“แนวคิดที่เป็นการโยกย้ายเงินไปสู่สินทรัพย์ที่มีคุณภาพหรือสินทรัพย์ปลอดภัย กำลังกลับมา”
บิตคอยน์-ทองคำ สัมพันธ์กันมากขึ้น
ผลการวิเคราะห์ล่าสุดโดย Fidelity ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์กับทองคำ เพิ่มสูงขึ้นในปี 2566 และแสดงความสัมพันธ์แบบผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในอดีต แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น
ความสัมพันธ์ต่อเนื่องหนึ่งปีระหว่างบิตคอยน์กับทองคำ ปัจจุบันอยู่ที่ 0.80 ตามแนวโน้มระยะยาว ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา อ้างอิงตามข้อมูลจาก Longtermtrends
ในส่วนของการเปิดตัว Bitcoin ETF นั้น เธอกล่าวว่าไม่แปลกใจกับการปรับฐานราคาที่ส่งผลให้บิตคอยน์ลดลง 20% จากราคา 48,500 ดอลลาร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเปิดตัว ซึ่งราคา Bitcoin ลดลงแตะจุดต่ำสุดที่ 38,740 ดอลลาร์ ในวันที่ 24 มกราคม ตามข้อมูลของ CoinGecko
เธอเองเป็นคนนึงที่คาดการณ์ว่า การเปิดตัวจะทำให้เกิดเหตุการณ์ “sell on the news หรือ ขายตามข่าว”
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าบิตคอยน์จำนวน 15 ล้านเหรียญ จากทั้งหมด 19.5 ล้านเหรียญ ที่มีการหมุนเวียนอยู่ในปัจจุบันไม่ได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลา 155 วันแล้ว ดังนั้นบิตคอยน์จึงยังคงอยู่ใน “strong hands หรือมือที่แข็งแกร่ง” ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าผู้ถือ Bitcoin ส่วนใหญ่มีมุมมองการถือครองในระยะยาว
อ้างอิง Cointelegraph