โดมิโนเอฟเฟกต์'คริปโท'กำลังหาทางออก จ่อขายคริปโทหาเงินใช้หนี้
'โดมิโนเอฟเฟค' กำลังหาทางออกแพลตฟอร์มต่างประเทศ FTX , GenesisและCelcius จ่อขายคริปโทหาเงินใช้หนี้ จนราคาสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในภวังค์ สู่ปัจจัยลบต่อตลาด ส่วน Zipmex ประเทศไทยอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่ไร้สัญญาณชีพจรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
Keypoint:
- เหตุการณ์ 'โดมิโนเอฟเฟค' ขาดสภาพคล่อง ในวงการคริปโท ปี 2565 ยังไม่สิ้นสุด
- แพลตฟอร์มต่างประเทศ FTX , GenesisและCelcius จ่อขายคริปโทหาเงินใช้หนี้ จนกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในภวังค์
- ส่วน Zipmex ประเทศไทยอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่ไร้สัญญาณชีพจรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ตอนนี้ (19ก.พ.2567) ราคาบิตคอยน์( Bitcoin: BTC) เคลื่อนไหวที่ 52,000 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.91% ซึ่งได้รับแรงบวกจากนักลงทุนบิตคอยน์ถือครองบิตคอยน์ไว้มากขึ้น หลังจากนักลงทุนสถาบันหลายแห่ง รวมทั้งบริษัทคริปโทที่ยื่นล้มละลาย พากันเทขายสินทรัพย์ออกมาในช่วงต้นเดือน ก.พ. 2567 จนทำให้ราคาสกุลเงินดิจิทัลหลายตัวไม่เคลื่อนไหว
เมื่อปลายปี 2565 ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญกับวิกฤติคริปโทจากสถานการณ์ FTX ล่มสลาย สร้างผลกระทบธุรกิจยืมคริปโทล้มระเนระนาด ทั้ง BlockFi ประกาศยื่นล้มละลาย Genesis ประกาศยื่นล้มละลายหลังไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านสภาพคล่องได้สำเร็จ และ Celsius หนึ่งในแพลตฟอร์มสินเชื่อคริปโทรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ออกแถลงการณ์ยื่นขอล้มละลาย ไปตามๆกัน
FTX เจ้าปัญหา
เมื่อวันที่ 22 มกราคม บริษัท FTX ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโทที่ล้มละลายในปี 2565 ก้วยปัญหาสภาพคล่อง ได้เทขายหุ้นของ Grayscale Bitcoin Trusts (GBTC ) ทั้งพอร์ตจำนวน 22 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ราคาบิตคอยน์นิ่ง ไม่ขยับอยู่ที่ 41,000 ดอลลาร์หลายวัน
และแพลตฟอร์มกระดานเทรดคริปโท ได้ตัดสินใจยุติการดำเนินงานและจะไม่กลับมาดำเนินการต่อ จากที่ก่อนหน้าที่คาดว่าจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งจะชำระหนี้คืนลูกค้าด้วยการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่แทน
โดยการชำระหนี้คืนลูกค้าจะคำนวณตามมูลค่าของ Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งขณะนั้น Bitcoin มีราคาอยู่ที่ต่ำกว่า 18,000 ดอลลาร์
Genesis รายต่อไป
ขณะเดียวกัน บริษัท Genesis ซึ่งเป็นบริษัทให้กู้ยืมคริปโทได้ล้มละลายได้ร้องขอต่อศาลล้มละลายในสหรัฐเพื่ออนุญาตให้เทขายกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC), Grayscale Ethereum Trust (ETHE) และ Grayscale Ethereum Classic Trust (ETCG) รวมมูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์
ในการยื่นฟ้องเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท Genesis ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการเทขายกองทุน Trust ก่อนที่ราคาของสินทรัพย์จะเกิดการผันผวน โดยบริษัท Genesis จะเทขายกองทุนที่ถือ Bitcoin Ethereum และ Ethereum Classic โดย “เพื่อนำเงินมาจ่ายคืนให้กับเจ้าหนี้”
“เราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์มากหากเราสามารถขายสินทรัพย์ในกองทุน Trust ได้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และเพื่อให้สามารถจ่ายเงินคืนให้กับเจ้าหนี้ได้ง่ายที่สุด”
ข้อมูลจากการยื่นฟ้องในเดือนกันยายน 2566 ระบุว่า GBTC Trust ได้ถือ บิตคอยน์ (Bitcoin) ไว้ทั้ง 3.2% ของ Bitcoin ที่อยู่ในระบบหมุนเวียน และ Genesis ได้ถือ GBTC ไว้ประมาณ 87% ของพอร์ต ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.38 พันล้านดอลลาร์
Celsius เริ่มดำเนินการคืนคริปโทมูลค่า “ 2 พันล้านดอลลาร์” ให้กับเจ้าหนี้แล้ว
ด้าน Celsius บริษัทคริปโทที่ล้มละลายอีกแห่งได้เริ่มแจกจ่ายและชำระคืนเงินให้กับเจ้าหนี้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์
เจ้าหนี้ประมาณ 98% ของ Celsius Network ลงนามในแผนการเพื่อรับเงินคืน หลังจากบริษัทหยุดให้บริการถอนเงินมาถึง 20 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2565 เนื่องด้วยวิกฤติสภาพคล่อง
โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.67 ที่ผ่านมา บริษัทได้คืนคริปโทส่วนใหญ่ให้กับเจ้าหนี้แล้ว โดย Celsius เริ่มกระบวนการคืนเงินให้กับเจ้าหนี้ เมื่อปลายเดือนมกราคม และกำลังดำเนินการเพื่อแจกจ่ายคริปโทมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
สำนักงานกฎหมายของบริษัท Kirkland & Ellis กล่าวในการอัปเดตว่า บิตคอยน์และอีเธอเรียมเกือบ 75% ของยอดหนี้อจะถูกจ่ายคืนผ่านทางช่องทางชำระเงิน PayPal/Venmo และผ่านทางแพลตฟอร์ม Coinbase
ตามเอกสารดังกล่าวระบุว่า Celsius ได้ชำระเงินสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ โดยโอน บิตคอยน์ (BTC) จำนวน 20,255.66 เหรียญ และอีเธอเรียม (ETH) 301,338.77 เหรียญ ไปยังเจ้าหนี้ทั้งหมด 171,672 ราย
Zipmex ประเทศไทยใกล้ถึงจุดจบ
ด้าน Zipmex ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโทไทยที่ได้รับอานิสงค์จากการเป็นคู่ค้าร่วมกับ บาเบลไฟแนนซ์ และ เซลเซียส ซึ่งตอนนี้ก็กำลังหาทางออกให้กับบริษัท หลังจากที่ต้องยื่นล้มละลายไป
ตอนนี้ Zipmex Thailand หรือ ซิปเม็กซ์ ประเทศไทยก็จะกำลังเผชิญเรื่องราวเลวร้ายไม่ต่างกัน เพราะโดน คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้ Zipmex ระงับการให้บริการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั่วคราว พร้อมสั่งแก้ไขการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ 2 ก.พ.67 นี้เป็นต้นไป และต้องจัดให้ลูกค้าสามารถถอนทรัพย์สินได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. กล่าวโทษ "เอกลาภ ยิ้มวิไล" อดีตกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Zipmex ต่อ บก.ปอศ. กรณีแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ทำให้ลูกค้าโอนเงินเข้า Z Wallet เพื่อใช้บริการ Zipup และ ZipUp+
ตอนนี้อดีตลูกค้า หรือ ผู้เสียหาย กำลังวุ่นวายเพื่อทำการโยกย้ายสินทรัพย์ออกมาจากซิปเม็กซ์ หรือบางคนจะยังติดปัญหาในการถอนเงิน ที่มีข้อจำกัดในการมีขั้นต่ำเพื่อถอนเงินนั่นเอง
รอดูกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้ว ช่วงขาขึ้นของคริปโท ที่ทุกคนรอคอย จะสามารถกลับมาอุ้มสถาการณ์ตลาด ที่ทุกคนเฝ้ารอให้ดีขึ้นเหมือนเดิมได้หรือไม่
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง The block