สินทรัพย์ดิจิทัล อีกด้านหนึ่งของ “เหรียญ” (1) | ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์
ภาพจำของ สินทรัพย์ดิจิทัล Digital Assets (DA) มักเป็นภาพของราคาสุดซิ่งและมู้ดสุดดิ่งของรีเทล นักลงทุนเล็กใหญ่หลังจากสร่างกาวเซลงมาจากรถไฟเหาะแล้ว มักลืมกันหมดว่าขึ้นไปทำไมตั้งแต่แรกและสงสัยภายหลังว่าทำไมต้องใช้บล็อกเชนด้วย
เมื่อชำเลืองไปดูราคาบิตคอยน์จะพบว่าขึ้นมาเกิน 160% แล้วจากจุดต่ำสุดเมื่อปี 2022 อีกไม่กี่ฮึดคงถึงยอดดอยรอบเก่า และมีลือกันว่าอาจไปถึง $100K ภายใน 1-2 ปี อ้างอิงสัญญาณที่ กลต.สหรัฐ อนุมัติตราประทับอย่างเป็นทางการว่าได้มีสะพานเชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมกับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล DA เป็นอันเรียบร้อยแล้ว
แต่หากมองให้ทะลุ “ภาพจำ” จะพบกับ “ภาพใหญ่” ของอนาคตที่กำลังหาทางเข้ามาดิสรัปโครงสร้างตลาดและรูปแบบการบริการที่พวกเราคุ้นเคย เวลาพวกเราซื้อขายหุ้น เราเป็นส่วนหนึ่งของกลไกตลาดทุน เวลาเราโอนเงิน ขอสินเชื่อ เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน
แล้วเวลาเราซื้อขาย ถือ หรือใช้งาน DA เหล่านี้ เรากำลังเป็นส่วนหนึ่งของอะไร?
‘อีกด้านหนึ่งของเหรียญ’ ที่มักถูกมองข้ามไปคือภาพใหญ่ 4 ภาพต่อไปนี้ และหากวันหนึ่งผู้คนเริ่มมองเห็นภาพเหล่านี้ชัดเจนมากขึ้น DA อาจยิ่งใหญ่ไม่แพ้ AI ที่เขย่าทุกวงการอยู่ในขณะนี้
ภาพที่ 1: Global Incentive Coordination Machine
หากซูมออกมาจากทุกอย่างและตัดรายละเอียดออก จะพบว่า DA เป็นความพยายามจะสร้างเครื่องจักรเพื่อการประสานงานบน “อินเตอร์เน็ตใหม่” ในระดับโลก ไม่ว่าจะเพื่อทำธุรกรรม จ่ายเงินปันผล ลงบัญชี หรือแลกเปลี่ยนสินค้าบริการ
ข้อแม้คือ งานเหล่านี้ต้องประสานได้อย่างถูกต้อง ไร้พรหมแดนในสเกลระดับโลก ด้วยต้นทุนต่ำ โดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์หรือตัวกลางใด ๆ เข้ามาข้องเกี่ยว
เครื่องจักรดังกล่าวจะทำให้มนุษย์สามารถโอนเงิน ยืมเงิน โดยไม่ผ่านธนาคารพาณิชย์ ซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ผ่านตลาดหุ้นซื้อของโดยไม่ผ่าน TikTok และเว็บอีคอมเมิร์ซ ใช้สัญญาณ 5G โดยไม่ต้องพึ่งพาโอเปอเรเตอร์จำนวนหยิบมือ หรือแม้กระทั่ง การเลือกเป็นประชาชนและจ่ายภาษีได้โดยไม่ต้องยึดติดกับชาติเกิดเมืองนอน
การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ต้องไม่ใช่เพียงมาซึ่งความน่าตื่นเต้น หรือราคาที่พุ่งขึ้นเพียงชั่วคราว แต่จะต้องนำมาซึ่งคุณค่าต่อผู้บริโภคที่เหนือกว่า ต้นทุนที่ต่ำลง และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันมากกว่าปัจจุบัน
มันคือการเปิดเสรีในหลายอุตสาหกรรม และทำลายกำแพงกั้นการแข่งขันจากนอกประเทศอย่างสมบูรณ์ หากสามารถหาจุดยืนร่วมกับองค์กรกำกับดูแลได้
แม้ว่าลิสต์ประสบการณ์จากอนาคตของ สินทรัพย์ดิจิทัล DA ข้างบนฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ online shopping, email, sharing economy และ self-driving cars
สิ่งเหล่านี้ก็เคยฟังดูเป็นไปไม่ได้ สุ่มเสี่ยงและใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะเกิด adoption เช่นกัน ในมุมเทคโนโลยีเอง 80% ของลิสต์ทำได้ระดับหนึ่งแล้วในขณะที่เมื่อ 3-4 ปีก่อนเพียงจะส่งเงินผ่านบล็อกเชนให้เสร็จภายในหนึ่งนาทียังเป็นเรื่องท้าทาย
ภาพที่ 2: อนาคตของตลาดทุนและบริการทางการเงิน
จุดที่จะได้รับอานิสงส์จาก DA มากที่สุดคือ ตลาดทุนและบริการทางการเงิน ในมุมบริการทางการเงิน เป็นไปได้ว่าผู้บริโภคจะมีโอกาสได้รับบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น และได้รับบริการใหม่ ๆ ที่ตรงตามความต้องการกว่าในอดีต
ในปัจจุบันข้อมูลทางการเงินยังมีความเป็นไซโลและไม่มีการ enriched ได้ง่ายนัก การดึงข้อมูลแม้แต่ภายในธนาคารเดียวมารวมเป็นชิ้นเป็นอันยังทำได้ยากลำบาก เรื่อง alternative lending ก็ยังผิวเผินนัก
ผมเชื่อว่ามีหลายเรื่องที่การบริหารจัดการข้อมูลการเงินลูกค้าและการ optimize capital efficiency ของสินทรัพย์ในโลกของ DA สามารถเป็นบทเรียนที่ดีให้กับการพัฒนาบริการทางการเงินที่ดีขึ้นในโลกจริง
ส่วนในมุมตลาดทุน หาก DA ทำได้สำเร็จ เราจะเห็นตลาดทุนโลกที่มีประสิทธิภาพและโอกาสในการเข้าถึงสำหรับผู้เล่นทุกฝ่ายอย่างทวีคูณ
ในมุม Efficiency
หนึ่ง คือ ต้นทุนในกระบวนการทำธุรกิจทุกขั้นตอน ควรจะลดลงจากการตัดตัวกลางและจากการ automate การไหลของทุนและข้อมูล
สอง คือ tokenization จะทำให้ underlying หลากประเภท เช่น หุ้นนอกตลาด อนุพันธ์ ที่ดิน ใบแจ้งหนี้ สัญญาการค้า ฯลฯ สามารถเชื่อมเข้ากับตลาดทุนอนาคตเพื่อหาสภาพคล่องได้ง่ายขึ้น
สาม คือ order books ของหลักทรัพย์ รวมถึงการทำ initial offering อาจถูกเชื่อมกันทั้งโลกและซื้อขายได้ตลอดเวลา เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทุนจากสองฝั่งตลาดและความหลากหลายของผู้เล่นใน “ตลาดทุนโลก”
ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าเราต้องการไปสู่โลกการเงินการลงทุนที่สุดโต่ง เป้าหมายที่สำคัญกว่าคือผลลัพธ์ว่า ตลาดทุนและบริการทางการเงินเมื่อมี DA อยู่ในภาพแล้ว “ดีกว่าเก่าจริงหรือไม่”
แม้ว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่หากดูจากความฉลาดของผู้กลุ่มนักพัฒนา DA และกองเงินสถาบันที่ซุ่มรออยู่ข้างสนาม ผมคิดว่ามีโอกาสสำเร็จมากกว่าศูนย์พอสมควร
ระบบเงิน ๆ ทอง ๆ สุดท้ายถ้าจะฉายภาพใหญ่ให้กลายเป็นภาพจำ จะต้องมีความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือนั้นก็มักจะมาพร้อมกับเวลา
เวลาที่ DA ต้องใช้เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า มันสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้จริงและไม่หมกมุ่นกับการฉ้อโกงเหมือนในรอบที่ผ่านมา และเวลาที่คนทั่วไปต้องใช้เพื่อเห็นสิ่งที่ไม่เคยเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะเป็นไปได้