ทักเฟซตีสนิท 'ผู้ว่าฯ' หลอกลงทุนค่าโง่ 20 ล้าน บุกจับสาวปลอมเป็นนักข่าวดัง
อุทาหรณ์เตือนภัย ตำรวจบุกจับสาวปลอมเป็นนักข่าวดัง ทักเฟซ Facebook ตีสนิทอดีต "ผู้ว่าฯ" หลอกลงทุนเสียค่าโง่ 20 ล้าน
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัย กรณีสาวปลอมเป็นนักข่าวดัง ทักเฟซบุ๊กตีสนิทอดีตผู้ว่าฯ หลอกลงทุนเสียค่าโง่ 20 ล้าน ล่าสุดตำรวจบุกจับแล้ว
เนื่องจากผู้เสียหายเข้าใช้แอพลิเคชั่น Facebook ปรากฏว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊คใช้รูปหญิงสาว โดยเป็นรูปแอบอ้างของนักข่าวดังสำนักหนึ่ง ได้มาทำการตีสนิทหนุ่มใหญ่วัยเกษียณเป็นนักบริหารระดับสูงเคยเป็นผู้ว่าการรัฐวิสาหกิจ แห่งหนึ่ง และมีการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมให้เกิความเชื่อใจ
สาวหลอกผู้ว่าฯ ลงทุนเสียค่าโง่ 20 ล้าน
ต่อมามีการขอแลกไลน์เพื่อทำการพูดคุยให้สนิทใจกันมากขึ้น คนร้ายจึงชวนให้ทดลองเทรดเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี หรือ คริปโต ซึ่งตนได้เล่นประจำ และได้เงินมาโดยตลอด
ซึ่งผู้เสียหาย เห็นว่าสนิทสนมกัน และเริ่มเชื่อใจ และเห็นภาพที่ส่งภาพการลงทุนได้ผลกำไรมาให้ดู จึงได้หลงเชื่อโดยคนร้ายเป็นผู้สอนวิธีการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพลิเคชั่น ผู้เสียหายไดด้ทำการโอนเงินไปทั้งสิ้น 33 ครั้ง 25 บัญชี
จนกระทั่งต่อมา เมื่อผู้เสียหายจะขอทำการถอนเงินจากการลงทุนนั้น ผู้เสียหายไม่สามารถทำการถอนเงิน จึงเชื่อว่าตนเองนั้นได้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำการลงทุน สูญเสียเงินไปกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิด
ต่อมา วันที่ 17 มิ.ย. 67เวลาประมาณ 11.30 น. พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.กก.1 บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.กฤชณัท เหล่ากอ รอง ผกก.กก.1 บก.สอท.1 เข้าร่วมจับกุมตัวนางสาวกัญญาณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
- ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
- เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง
การจับกุมในเคสที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้แล้วไป 17 บัญชีจาก 25 บัญชี เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลเพื่อตามล่าผู้กระทำผิดทั้งหมดมารับโทษให้ครบทั้งขบวนการ
ตำรวจไซเบอร์เตือนอย่าได้หลงเชื่อการชักชวนลงทุนโดยลำพัง โดยเฉพาะการชักชวนลงทุนกับคนในโลกออนไลน์ บุคคลที่เราไม่เคยพบเจอหน้ามากก่อนเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะไม่มีอะไรมารับรองว่าเราสามารถเชื่อใจคนๆนั้นได้จริง รู้หน้าไม่รู้ใจ ยิ่งไม่รู้หน้ายิ่งหนักใจ