“แรบบิท แคร์” รุกแพลตฟอร์มออนไลน์ เขย่าตลาด"ประกันภัย-บัตรเครดิต”
เเม้จะเจอความท้าทายจากวิกฤติโควิด เเต่ธุรกิจนายหน้าประกันภัยและบริการทางการเงินที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้อานิสงส์ที่ดี จากการที่ลูกค้าเริ่มเห็นความสำคัญในการซื้อประกันมากขึ้น และต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์
‘แรบบิท แคร์’ ในฐานะธุรกิจโบรกเกอร์ด้านการเงินและประกันภัยออนไลน์ เดินหน้ารุก “บริการประกันภัยและบริการบัตรเครดิตบนแพลตฟอร์มออนไลน์” เต็มสูบในปีนี้
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้บริการบัตรเครดิต” เทียมกับธนาคารชั้นนำทั้งหมด และทุ่มงบลงทุนมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์ “พัฒนาระบบCareOS” และสร้างทีมพัฒนา 95 คน เพื่อดูแลระบบ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินตรงกับความต้องการแบบเฉพาะบุคคล อย่างสมบูรณ์แบบ สะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลาในทุกช่องทาง
ไมเคิล มันเฟรด สไตรเบิล บริษัท แรบบิท แคร์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมาย พัฒนาเทคโนโลยีและการเงินสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีการบูรณาการธุรกรรมการเงินและประกันภัย ตอบโจทย์ตลาดมากที่สุด มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัว อายุ 35-45 ปี ในกลุ่ม CFO หรือ Chief Family Officer ซึ่งในแต่ละครอบครัวจะมีผู้ดูแลและตัดสินใจเลือกการเงินและประกันภัยให้คนในครอบครัว
“เราเป็นแพลตฟอร์มเดียวในตลาดตอนนี้ ที่สามารถบอกตัวเลขค่าใช้จ่ายจริงให้ลูกค้าได้ สู่การตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการมากที่สุด ”
ชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทมุ่งพัฒนาประกันภัยและบัตรเครดิตสินเชื่ออย่างเต็มที่ เชื่อว่า ตลาดนี้จะสามารถเติบโตได้ในอนาคต ทำให้พยายามหาพาร์ตเนอร์และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ตอบโจทย์ลูกค้า และเพิ่มผลิตภัณฑ์เสริมจากเดิมที่ลูกค้าซื้อไปเพื่อให้ลูกค้ามีความคุ้มค่ามากขึ้น เช่น ลูกค้าซื้อประกันรถยนต์ จะเสริมประกันของในรถยนต์
สำหรับกลยุทธ์การขยายตลาดหลังจากนี้ ทางด้าน “บริการบัตรเครดิต” บริษัทเตรียมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารอีก 2-3 แห่ง คาดว่าจะเปิดตัวในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จากปัจจุบันร่วมกับ 6 ธนาคารพันธมิตรแล้ว ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกร ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารกรุงไทย และอเมริกันเอ็กซ์เพลส
พร้อมสร้างแคมเปญการตลาดของผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและประกันภัย ร่วมกับกลุ่มคู่ค้า เพื่อให้มีความแตกต่างไปจากตลาด เน้นความคุ้มค่ามากที่สุด ถือเป็นจุดแข็งบริษัท ที่จะสามารถใช้ข้อมูลลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยดาต้ามาร์เก็ตติ้ง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลายล้านคนให้กับประกันภัยและบัตรเครดิตสินเชื่อ
รวมทั้ง “บริการ Complete Care ” ในการช่วยลูกค้าเลือกบริการประกันภัยและบัตรเครดิตด้วยระบบCareOS หลังจากนั้นดูแลลูกค้าด้วยCare Center 1438 สู่บริการหลังการขาย Care Emergency
ผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมาย “บริการนายหน้าประกันภัย” มีเบี้ยประกันภัย 3,000 ล้านบาท จากตอนนี้มีเบี้ยประกันภัยเข้ามาแล้ว 2,000 ล้านบาท มีผู้ยอดออกกรมธรรม์ประกันภัยเฉลี่ยเดือนละ 10,000 ราย จากยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉลี่ยเดือนละ 100,000 ครั้ง
ทั้งนี้ บริการนายหน้าประกันภัยของบริษัท จะมีครอบคลุม ทั้งประกันภัยรถยนต์ มีสัดส่วนมากสุด และมีประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันไลฟ์สไตล์ดูแลการเดินทาง สัตว์เลี้ยง รวมถึงประกันสำหรับองค์กรประกันการก่อสร้าง ที่สามารถออกกรมธรรม์ให้กับลูกค้าได้ทันที
ในส่วน “บริการบัตรเครดิต” ปีนี้ตั้งเป้าหมาย มียอดการอนุมัติบัตรเครดิต 300,000 ราย จากขณะนี้มียอดการอนุมัติบัตรเครดิตเฉลี่ย 6,000-8,000 รายต่อเดือน บริษัทมีรายได้จากค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ในการส่งลูกค้าให้ธนาคาร สัดส่วน 50% ในปี 2564 บริษัทสามารถส่งลูกค้าบัตรเครดิตให้ธนาคารซิตี้แบงก์คิดเป็นสัดส่วน30% ของสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งหมด
อย่างไรก็ตามแม้ว่า “แรบบิท แคร์” มุ่งไปยัง “บริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น” แต่ในปัจจุบันการซื้อบริการกว่า 90% ของทั้งหมด ยังคงปิดการขายในขั้นตอนสุดท้ายในรูปแบบ Call Center
ดังนั้น ในอนาคตเรายังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก ที่จะมีกลุ่มลูกค้าเข้าถึงผ่านบริการในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากตั้งแต่ปี 2565 จากการเห็นความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและจากการที่ “แรบบิท แคร์” สร้างการรับรู้ให้ลูกค้าเข้าถึงมากขึ้น