‘กองทุนทริกเกอร์’ ปี65 ฟอร์มแผ่ว 19 กอง ยังไม่เข้าเป้า มูลค่า 5.3 พันล้าน

‘กองทุนทริกเกอร์’ ปี65 ฟอร์มแผ่ว 19 กอง ยังไม่เข้าเป้า มูลค่า 5.3 พันล้าน

ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน ยิลด์ทุกสินทรัพย์ลงแรง ฉุดกองทุนทริกเกอร์ปีนี้ ปิดเข้าเป้า 1 กอง จาก 20 กองออกใหม่ ค้างอยู่ 19 กอง มูลค่า 5.3 พันล้าน หนุน3ปี ยังค้างอยู่ 45 กอง 2 หมื่นล้าน “มอร์นิ่งสตาร์” แนะผู้ลงทุนดูความเสี่ยงเงื่อนไข-สภาพคล่องตนเอง “เคแบงก์”แนะตุนเงินสดโค้งท้ายปี

ตลาดทุนทั่วโลกตลอดทั้งปี 2565 "ผันผวน"ต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนในเกือบทุกสินทรัพย์หลักลดลงแรง และดัชนี MSCI World ปรับลดลงไปแล้วถึง 20% 

ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้ยังเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 30 ปีที่ผลตอบแทนในหุ้นและตราสารหนี้ปรับลดลงพร้อมกัน และเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสินทรัพย์ปรับลดลงมากถึง 20%

ผลจากช่วงปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวลง จึงทำให้ "กองทุนทริกเกอร์" ยังไม่สามารถปิดตามเงื่อนไขที่กำหนด 

 

 

"ชญานี จึงมานนท์" นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "กองทุนทริกเกอร์" ที่เปิดใหม่ในปีนี้ จำนวน 20 กองทุน  มีการปิดตลาดเงื่อนไข 1 กองทุน  คือ "กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#6 (TEQT5M6)"  จาก บลจ.ทิสโก้

ปัจจุบันคงเหลือกองทุนที่ยังไม่ได้ปิดตามเงื่อนไขจำนวน 19 กองทุน รวมมูลค่าทรัพย์สิน 5,300 ล้านบาท  ดังนี้ 

‘กองทุนทริกเกอร์’ ปี65 ฟอร์มแผ่ว 19 กอง ยังไม่เข้าเป้า มูลค่า 5.3 พันล้าน

ขณะเดียวกันยังมีกองทุนที่เปิดขายในช่วงปี 2563-2564  ที่ยังไม่ปิดกองทุนตามเงื่อนไข รวม 26 กองทุน รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 15,000 ล้านบาท

ทำให้โดยรวมมีมูลค่ากองทุนทริกเกอร์ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2563  เป็นต้นมาหรือในช่วง3 ปี  จำนวน 45 กองทุน ยังไม่ได้ปิดตามเงื่อนไขมีมูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท

 

 

 

 

"ชญาณี" มองว่า การเปิดกองทุนทริกเกอร์ที่ลงทุนต่างประเทศค่อนข้างชะลอลงในปีนี้ ต่างจากปีที่แล้วที่มีการเปิดกองทุนทริกเกอร์ต่างประเทศกันค่อนข้างคึกคัก ซึ่งเป็นผลจากในปีนี้การลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดหุ้นมีทิศทางเป็นขาลง ในขณะที่หุ้นไทยแม้จะยังผันผวน แต่ก็มีการฟื้นตัวขึ้นมาได้ในบางช่วง จึงทำให้มีการจับจังหวะการลงทุนในช่วงตลาดปรับขึ้น-ลงได้ 

แนะนำนักลงทุนที่สนใจ "กองทริกเกอร์" ควรทราบถึงความเสี่ยงจากการลงทุนกองทุนทริกเกอร์ที่มี "การกำหนดเงื่อนไขถือครองตามแต่ละกองทุน" นักลงทุนจึงควรคำนึงถึง "สภาพคล่องส่วนบุคคล" ก่อนการลงทุนทริกเกอร์ฟันด์ เพื่อให้พิจารณาจำนวนเงินที่นำไปลงทุนได้อย่างเหมาะสม

สำหรับการลงทุนหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทย เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ยังมีความผันผวนต่อเนื่องโค้งท้ายปีนี้และในปีหน้า  "ตรีพล ภูมิวสนะ" Senior Managing Director Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย  กล่าวว่า  ในช่วง2เดือนที่เหลือปีนี้  เรายังคงแนะนำนักลงทุน "ถือเงินสด"  ไว้ก่อนดีกว่า รอตลาดมีทิศทางชัดเจนมากกว่านี้ เก็บไว้หาจังหวะเข้าลงในปีหน้า

"มองว่าตลาดหุ้นยังมีโอกาสย่อตัวลงได้อีก แม้บรรยากาศการลงทุนในหุ้นกลับมสคึกคักบ้างแต่น่าจะเป็นชั่วคราว ยังมีการประชุมเฟดอีกครั้งในช่วงที่เหลือปีนี้และเฟดยังเดินหน้าต่อสู้กับเงินเฟ้อ 

ดังนั้นตลาดน่าจะยังรับข่าวร้ายไม่หมด โดยเฉพาะในปีหน้า มีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยทั้งสหรัฐ ยุโรป และจีนที่เศรษฐกิจไม่ได้ขยายตัวดีนัก ส่งออกชะลอตัว ต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น กระทบกับกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสชะลอตัวลดลง" 

 

กองทุนรวมทริกเกอร์ฟันด์ คืออะไร? และเหมาะกับใคร?

ธนาคารไทยพาณิชย์ แนะนำว่า ทริกเกอร์ฟันด์ เป็นกองทุนรวมทั่วไปประเภทหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นมาด้วยนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ แต่ความพิเศษอยู่ที่การกำหนดเงื่อนไขเป้าหมายภายใต้กรอบระยะเวลา โดยหากกองทุนสามารถทำได้ตามเป้าหมายเงื่อนไขการเลิกกองทุน หรือรู้จักกันดีว่า “Trigger” ก็จะเลิกกองทุนทันที แล้วทำการคืนเงินให้กับผู้ลงทุนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน

กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ เหมาะกับ 

-ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระยะสั้น และระยะกลาง

-ผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามจับจังหวะตลาด เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่ช่วยจับจังหวะตลาดและบริหารเงินลงทุนให้คุณ

-ผู้ลงทุนที่เข้าใจว่ามูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมายไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนการลงทุน และไม่สามารถขายหน่วยลงทุนคืนได้ในช่วงเวลาและเงื่อนไขที่กองทุนกำหนด นับตั้งแต่วันถัดจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม

-ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้

(คำเตือน : ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงเวลาตามเงื่อนไขที่กองทุนรวมกำหนด ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)