ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งเกณฑ์ให้ บลจ. มีข้อมูลสมาชิก'กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ'
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ บลจ. มีข้อมูลสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและผู้รับผลประโยชน์ เพื่อให้ บลจ. ใช้ในการติดต่อและพิสูจน์ตัวตน และสามารถจ่ายเงินให้แก่สมาชิกหรือผู้รับผลประโยชน์ได้ จนถึง 25 ธ.ค.นี้
ตามที่กำหนดในมาตรา 23 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 ว่าเมื่อลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเพราะเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่กองทุนเลิก ผู้จัดการกองทุนต้องจ่ายเงินจากกองทุนให้แก่สมาชิกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับกองทุน และตามที่กำหนดในมาตรา 23/1 โดยให้จ่ายรวมทั้งหมดคราวเดียวภายในเวลาไม่เกิน30 วันนับแต่วันสิ้นสมาชิกภาพนั้น
อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติบริษัทจัดการอาจไม่สามารถจ่ายเงินโดยตรงให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สิ้นสมาชิกภาพ เนื่องจากไม่มีข้อมูลสมาชิกและข้อมูลการติดต่อสำหรับใช้โอนเงินหรือติดต่อให้
มารับเงิน บริษัทจัดการจึงออกเช็คให้สมาชิกตามที่นายจ้างแจ้งเมื่อสมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ
ดังนั้น หากนายจ้างไม่ได้แจ้งสิ้นสมาชิกภาพ หรือนายจ้างเลิกกิจการโดยไม่ได้เลิกกองทุน หรือสมาชิกไม่ได้รับเช็ค จะทำให้มีเงินคงค้างสะสมอยู่จำนวนมาก ส่งผลให้สมาชิกไม่ได้รับเงินไปใช้ในยามเกษียณหรือสิ้นสมาชิกภาพ โดยบริษัทจัดการไม่สามารถติดต่อหรือยืนยันตัวตนของสมาชิกที่มาขอรับเงินได้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงมีแนวคิดที่จะออกประกาศกำหนดให้บริษัทจัดการที่จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องจัดให้มีข้อมูลที่จำเป็นของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบ ในการประชุมครั้งที่ 10/2565 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 เพื่อให้บริษัทจัดการสามารถใช้พิสูจน์ตัวตนและคืนเงินให้แก่สมาชิกตามที่กฎหมายกำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รวมทั้งลดปัญหาในกรณีที่นายจ้างหรือคณะกรรมการกองทุนไม่ได้แจ้งสิ้นสมาชิกภาพ ซึ่งส่งผลให้สมาชิกไม่ได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนสำหรับนำไปใช้ในยามจำเป็นหรือเก็บออมเพื่อรักษาเป้าหมายการออมเพื่อการเกษียณอายุทั้งนี้ การมีข้อมูลของสมาชิกดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทจัดการสามารถบริหารจัดการเงินคงค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นรวมทั้งร่างประกาศในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail:[email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2565