ใช้เทคโนโลยีช่วยเทรดหุ้นและอนุพันธ์

ใช้เทคโนโลยีช่วยเทรดหุ้นและอนุพันธ์

ในการบริหารจัดการพอร์ตลงทุนของผู้ลงทุนนั้น ประเด็นสำคัญส่วนหนึ่งที่ทุกท่านต้องพิจารณา คือ แนวทางการวิเคราะห์และกลยุทธ์ซื้อขาย บางท่านอาจเลือกใช้การวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์นั้น (Fundamental Analysis)

 ในขณะที่แนวทางที่หลายท่านนิยมใช้ โดยเฉพาะเมื่อต้องการหาจังหวะเข้าซื้อ/ขาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรืออนุพันธ์ ก็คือการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางด้านเทคนิค (Technical Analysis) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินค้าหรือปริมาณการซื้อขายในอดีต ในลักษณะของกราฟรูปแบบต่างๆ

ปัจจุบัน เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือโปรแกรมการเทรด ที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถใช้งานได้นั้นมีหลากหลาย และด้วยพัฒนาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเทรดที่เติบโตในปัจจุบัน ก็ทำให้ผู้ลงทุนไทยมีเครื่องมือหรือตัวช่วยในการซื้อขายหุ้นหรืออนุพันธ์ ที่ทำได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หนึ่งในพัฒนาการที่สำคัญ คือ การนำเอาเทคโนโลยีการเทรดแบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นหรืออนุพันธ์ ที่หลายคนอาจจะเรียกกันว่า Algo Trading หรือ Robot Trading หรือหุ่นยนต์ โดยเป็นระบบการซื้อขายตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ช่วยลดการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ทำให้สามารถดำเนินการตามแผนการลงทุนที่วางไว้ และระบบดังกล่าวยังสามารถนำข้อมูลมาประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เพิ่มโอกาสในการลงทุนตามแนวคิดที่วางไว้ได้อย่างทันท่วงทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอ

ในปัจจุบัน ระบบส่งคำสั่งอัตโนมัติดังกล่าวมีอยู่ 2 ลักษณะ แบบแรกคือ ระบบสำเร็จรูป ซึ่งมีตัวช่วยในการสร้างและทดสอบระบบแบบง่ายๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านภาษาคอมพิวเตอร์หรือการ Coding เพียงเลือกชุดคำสั่งสำเร็จรูปมาใช้งาน หรือกำหนด Indicator กราฟเทคนิค หรือเงื่อนไขในการซื้อขายตามแผนการเทรด พูดง่ายๆ ว่า แค่คลิกไม่ต้องโค้ด หรือแค่ลากเส้นแนวการเทรด (Trade on Chart) ก็ซื้อขายได้อย่างสะดวก ตัวอย่างโปรแกรมที่หลายโบรกเกอร์ให้บริการ เช่น โปรแกรม MT5 ที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนสร้างกลยุทธ์การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดีขึ้น

 โดยโปรแกรมจะช่วยวิเคราะห์และซื้อขายหุ้นแบบอัตโนมัติ และยังมีระบบอัจฉริยะที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของปริมาณการซื้อขาย (Volume), ราคาเสนอซื้อขาย (Bid/Ask) หรือ Ticker ในตลาดได้รวดเร็ว แบบ Real-time หรือโปรแกรม MT4 ที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกใช้กราฟเทคนิคหรือหุ่นยนต์ ช่วยเทรดอนุพันธ์ใน TFEX ให้เหมาะกับสภาวะตลาดด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ได้ตามต้องการ

ส่วนแบบที่สอง คือ ระบบที่ผู้ลงทุนพัฒนาคำสั่งด้วยตนเอง ผู้ใช้งานต้องมีทักษะด้านภาษาคอมพิวเตอร์และเขียนโปรแกรมได้ โดยปัจจุบันมีหลายโบรกเกอร์ร่วมกับบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (Settrade) ได้พัฒนาระบบเพื่อรองรับการส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติในรูปแบบนี้สำหรับทั้งหุ้นและอนุพันธ์ โดยการส่งคำสั่งจากโปรแกรมอัตโนมัตินี้

ต้องผ่านระบบควบคุมความเสี่ยงก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย (Pre-trade Risk Management) ของสมาชิกที่ได้รับอนุญาตจาก SET และ TFEX แล้ว เพื่อกลั่นกรองว่าการส่งคำสั่งซื้อขายจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ SET และ TFEX (ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องส่งชุดคำสั่ง หรือ Source Code ของระบบเทรดที่ตนเองพัฒนาขึ้นให้แก่ SET/TFEX) ทั้งนี้ ในปัจจุบันผู้ลงทุนสามารถเลือกพัฒนาการส่งคำสั่งแบบอัตโนมัติด้วย โปรแกรม AMIBROKER, Python หรือ Excel (VBA) ก็ได้

จะเห็นได้ว่า พัฒนาการของเทคโนโลยีการเทรดในปัจจุบัน ช่วยให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถพัฒนาวิธีการลงทุนและการส่งคำสั่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น ถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือการเทรดและขีดความสามารถของผู้ลงทุนรายย่อยให้ทัดเทียมกับผู้ลงทุนสถาบัน

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรจากการซื้อขาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานควรพึงระวัง เช่น ความเสถียรของระบบคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต รวมถึงสถานการณ์หรือภาวะตลาดที่อาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากแผนที่วางเอาไว้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาระบบการเทรด คือ การวางแผนเรื่อง Money Management และ Risk Management ร่วมด้วยเสมอ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ หรือ SET Contact Center โทร. 0 2009 9999